กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9961
ชื่อเรื่อง: วาทกรรมว่าด้วยโสเภณีในสังคมไทย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Discourse on sex worker in thi society
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: โชติสา ขาวสนิท
ธุวพล ทองอินทราช
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์
คำสำคัญ: วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเมืองและการบริหารจัดการ
โสเภณี -- ไทย
การค้าประเวณี -- ไทย
วันที่เผยแพร่: 2563
สำนักพิมพ์: คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การศึกษาวาทกรรมว่าด้วยโสเภณีในสังคมไทยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการศึกษา คือ เพื่อศึกษาวาทกรรมทางนโยบายโสเภณีไทยในยุคสมัยก่อนการพัฒนายุคสมัยแห่งการพัฒนาและยุคสมัยปัจจุบัน เพื่อมุ่งตอบคำถามว่าในแต่ละยุคมีบริบทเป็นอย่างไร มีการก่อรูป การต่อต้านทางวาทกรรมอย่างไร และมีตัวแสดงที่สำคัญ ทางวาทกรรมอย่างไรบ้างผลจากการศึกษาพบว่ายุคสมัยก่อนการพัฒนาบริบทที่สำคัญในยุคนี้ คือ อยู่ภายใต้การปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีระบบศักดินาเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดความสัมพันธ์ทางสังคม การก่อรูปของวาทกรรมทางนโยบายโสเภณีในยุคนี้มีตัวแสดงที่สำคัญ คือ พระมหากษัตริย์มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ก่อรูปทางนโยบายโสเภณีภายใต้การครอบงำของความคิดหลักทางเศรษฐกิจในยุคนี้ มีการต่อต้านวาทกรรมทางนโยบายดังกล่าวโดยตัวแสดงหลัก คือ เจ้าภาษีนายอากรอันเนื่องมาจากปัญหาในการประมูลการจัดเก็บภาษีโสเภณี ผลนำไปสู่การตอบโต้ของรัฐโดยการตราพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรคใช้บังคับเพื่อรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง คือ กษัตริย์แต่เพียงผู้เพียวกระทั่งเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาที่อยู่ภายใต้บริบทที่สำคัญ คือ การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก มีรัฐธรรมเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดความสัมพันธ์ทางสังคม การก่อรูปของวาทกรรมทางนโยบายโสเภณีในยุคนี้มีตัวแสดงที่สำคัญในการก่อรูป คือรัฐบาลที่มีบทบาทหลักในฐานะผู้กำหนดและวางแนวนโยบายเรื่องโสเภณีอย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติปัญหาเรื่องโสเภณีถึงแม้จะถูกกำหนดให้ผิดกฎหมายไม่อนุญาตให้มีการขายบริการทางเพศดังเช่นในยุคก่อนการพัฒนาแต่ในทางปฏิบัติก็มิได้มีการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐอย่างเคร่งครัด ก่อให้เกิดการต่อต้านทางวาทกรรม โดยตัวแสดงที่มีอิทธิพลต่อนโยบายโสเภณีของรัฐไทย คือ สันนิบาตชาติและสหประชาชาติ โดยการครอบงำผ่าน ทางอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบตะวันตกผล คือ นำไปสู่การปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโสเภณีเพื่อให้ สอดคล้องกับการต่อต้านดังกล่าวจนกระทั่งเข้าสู่ยุคปัจจุบัน วาทกรรมทางนโยบายโสเภณีอยู่ภายใต้กรอบ ความคิดแบบถูกผิดตามบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญอย่างหนึ่งของนโยบายรัฐในยุคนี้ การก่อรูปวาทกรรมทางนโยบายโสเภณีมีตัวแสดงหลัก คือ รัฐบาลและกลไกอำนาจรัฐที่เกี่ยวข้อง ในฐานะผู้นิยามและ กำหนดนโยบายโสเภณีสู่การปฏิบัติ แต่เนื่องจากบริบททางสังคมไทยยุคปัจจุบันที่มีความแตกต่างจากในอดีตของทั้งสองยุคที่ผ่านมา คือ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน ผลักดันให้เกิดกระแสการต่อต้านทางวาทกรรมทางนโยบายที่ครอบงำปัญหาเรื่องโสเภณี ในลักษณะของความคิดแบบถูกหรือผิดตามบทบัญญัติของ กฎหมายสู่การเสนอกรอบความคิดทางนโยบายโสเภณีในลักษณะอื่น ๆ โดยมีตัวแสดงหลัก คือ กลุ่มองค์กร พัฒนาเอกชนที่พยายามเสนอรูปแบบของแนวนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโสเภณีเพื่อโต้ตอบรัฐ ผล คือ นำไปสู่การตอกย้ำวาทกรรมทางนโยบายโสเภณีของรัฐไทยโดยการตรากฎหมายหลายฉบับ เพื่อใช้บังคับกำกับนโยบาย และประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโสเภณีในสังคมไทย
รายละเอียด: ดุษฎีนิพนธ์ (ร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2563
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9961
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:วิทยานิพนธ์ (Theses)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
57820023.pdf2.17 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น