Abstract:
การศึกษาลักษณะทางนิเวศวิทยาและสถานภาพปัจจุบันของหาดทรายชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยทำการเก็บข้อมูลด้านชีวภาพ กายภาพ และทางเคมี จากหาดทรายทั้งหมด 18 หาด ตั้งแต่จังหวัดชลบุรี จนถึงจังหวัดตราด การศึกษาประชาคมสัตว์ทะเลหน้าดินขนาดใหญ่ พบสัตว์รวม 40,572 ตัว เฉลี่ย 185.5 ตัว/ม2 แบ่งออกเป็น 76 ชนิดจาก 5 กลุ่มใหญ่ คือ Polychaeta, Crustacea, Gastropoda, Bivalvia และ Echinoderamata โดยหอยสองฝาเป็นกลุ่มที่พบหลากหลายและชุกชุมที่สุด
เมื่อพิจารณาลักษณะของหาดทรายแต่ละแห่ง สัตว์ทะเลหน้าดินขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งด้านอ่าวไทยตอนในจะมีความหลากหลายและความชุกชุมสูงกว่าหาดทรายที่อยู่ตอนนอกออกมา สำหรับองค์ประกอบของอนุภาคทรายและสีมีความแตกต่างระหว่างหาดทรายที่ทำการศึกษาเช่นกัน โดยหาดทรายที่อยู่บริเวณอ่าวไทยตอนในจะหยาบ ขณะที่หาดทรายที่อยู่ตอนนอกจะละเอียดกว่า แสดงให้เห็นอิทธิพลของคลื่น-ลมที่แตกต่างกัน ส่วนสีของทรายมีความแตกต่างระหว่างหาดและไม่มีรูปแบบที่แน่นอน สีของทรายอยู่ในกลุ่มสีเทาและสีน้ำตาล ความแตกต่างของสีทรายแสดงให้เห็นถึงแหล่งที่มาของทรายและอิทธิพลเฉพาะพื้นที่ สำหรับคุณสมบัติทางเคมีของน้ำแต่ละหาดมีความผกผันมากจากกิจกรรมจากชุมชนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะบางพระ และศรีราชาที่มีค่าของสารอาหารในน้ำและปริมาณอินทรีย์สารในดินสูง สำหรับหาดบางแสน-วอนนภา แม้สารอาหารในน้ำมีค่าต่ำตั้งแต่ปริมาณสารอินทรีย์มีค่าสูง
หาดทรายในภาคตะวันออกแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ 1) หาดทราย reflective ที่เป็นหาดหน้าแคบ มีความหลากหลายและความชุกชุมของสัตว์ทะเลหน้าดินขนาดใหญ่ต่ำ ได้แก่ หาดพยูน และหาดน้ำริน และหาดแสงจันทร์ 2) หาดทราย Intermediate เป็นหาดที่มีเขตทรายแห้งแคบแต่เขตคลื่นแตกตัวกว้าง มีความหลากหลายและชุกชุมของสัตว์หน้าดินมาก 3) หาดหทรายdissipative เป็นหาดที่มีเขตทรายแห้งกว้างแต่เขตคลื่นแตกตัวแคบ มีความชุกชุมและความหลากหลายของสัตวืที่พบปานกลาง ได้แก่ หาดแม่รำพึง หาดสวนสน และหาดแม่พิมพ์ ทั้งนี้ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์หาดทรายในบริเวณนี้ได้แก่ คลื่นลม ที่มีผลต่อการกำหนดชนิดของหาดและสิ่งมีชีวิตที่พบนั่นเอง นอกจากนี้ปัจจัยเฉพาะพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศนี้คือน้ำจากแผ่นดินที่จะนำพาธาตุอาหารมาสู่หาดทรายและน้ำบริเวณชายฝั่ง
ผลจากการศึกษาในครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าหาดทรายในภาคตะวันออกถูกรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์มาก เนื่องจากประชากรอยู่หนาแน่นจากการที่เป็นทั้งแหล่งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รูปแบบการรบกวนหากรุนแรงจะมีผลทางกายภาพ คือเกิดการกัดเซาะทำให้หาดหายไป และหากไม่รุนแรง เช่น การเพิ่มขึ้นของของเสรยจากแผ่นดินทำให้เกิด Eutrophication มีผลการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของหาดทรายทั้งทางชีวภาพและทางกายภาพ