Abstract:
งานวิจัยได้พัฒนาขั้วไฟฟ้าบิสมัทโดยเคลือบขั้วไฟฟ้ากลาสซี่คาร์บอนด้วยอนุภาคนาโน บิสมัทรูปทรงกลม และอนุภาคบิสมัทรูปทรงแท่ง เพื่อนำไปใช้เป็นขั้วไฟฟ้าในการวิเคราะห์โลหะหนัก ได้แก่ สังกะสี, แคดเมียม และตะกั่ว โดยใช้เทคนิคสแควร์เวฟแอโนดิกสตริปปิงโวลแทมเมทรี (Square – wave anodic stripping voltammetric technique) ในการสังเคราะห์อนุภาคนาโนบิสมัทชนิดต่างๆ นี้ได้ ทําการศึกษาปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อการสังเคราะห์อนุภาคนาโนรูปทรงกลม และอนุภาคบิสมัทรูปทรง แท่ง ตามลำดับ นอกจากนี้ยังศึกษาคุณลักษณะ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) ในสภาวะที่เหมาะสมสามารถสังเคราะห์อนุภาคนาโนรูปทรงกลม และอนุภาคบิสมัทรูปทรงแท่ง ที่มีขนาด 137.0 ±3.43 นาโนเมตร และ 5.18 ± 1.36 ไมโครเมตร ตามลําดับ เมื่อนำขั้วไฟฟ้าที่พัฒนาแล้ว ไปวิเคราะห์โลหะหนัก ซึ่งจากผลการทดลองศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการวิเคราะห์คือ ค่าศักย์ไฟฟ้า และระยะเวลาในการเกาะติดสารที่เหมาะสมมีค่าเท่ากับ -1.4 โวลต์ และ 240 วินาที ตามลําดับ ที่ ความถี่ 25 เฮิร์ต แอมพลิจูด 25 มิลลิโวลต์ และสเตปโพเทนเชียล 4 มิลลิโวลต์ และสําหรับช่วงความ เป็นเส้นตรงของสังกะสี,แคดเมียม และตะกั่วมีค่าอยู่ในช่วง20 – 130 ไมโครกรัมต่อลิตร,10 – 60 ไมโครกรัมต่อลิตรและ 6 – 54 ไมโครกรัมต่อลิตร ตามลําดับ ค่าขีดจำกัดการตรวจวัด (LOD) คือ 3.2 ไมโครกรัมต่อลิตร สำหรับสังกะสีและ 1.60 ไมโครกรัมต่อลิตร สำหรับแคดเมียม และตะกั่ว ตามลําดับ นอกจากนี้ได้นำขั้วไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นนี้ไปวิเคราะห์หาปริมาณโลหะดังกล่าวในตัวอย่างน้ำทะเล พบว่าให้ผลเป็นที่น่าพอใจ