Abstract:
การศึกษาขบวนการกลายเป็นเมืองของเขตเทศบาลเมืองชลบุรี มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ที่ดินของภาครัฐบาลและเอกชนในระยะต่าง ๆ ศึกษาปัจจัยสาเหตุอันทำให้เกิดวิวัฒนาการของเมืองตลอดจนแนวโน้มพัฒนาการของเมือง ขอบเขตการศึกษาจำกัดเฉพาะภายในพื้นที่เขตเเทศบาลเมืองชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 4.75 ตารางกิโลเมตร การศึกษาใช้ข้อมูล 2 ประเภทคือ
1. ข้อมูลชั้นหนึ่งจากการสังเหตการณ์ภาคสนาม
2. ข้อมูลชั้นสองจากเอกสารและการสัมภาษณ์พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์
สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้คือ
1. การใช้ที่ดินระยะแรกก่อนปี พ.ศ. 2457 เมืองชลบุรีเป็นชุมชนเล็กประกอบไปด้วยการใช้ที่ดิน 5 ประเภท คือ การใช้ที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัย การใช้ที่ดินสำหรับเขตค้าปลีกและค้าส่ง การใช้ที่ดินสำหรับเขตพักการขนส่ง การใช้ที่ดินสำหรับภาครัฐบาลและการใช้ที่ดินสำหรับศูนย์กลางศาสนา
2. การใช้ที่ดินระยะที่่สองก่อนปี พ.ศ. 2493 การใช้ที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัยเขตค้าปลีกและค้าส่งมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในขณะที่การใช้ที่ดินสำหรับภาครัฐบาลมีการขยายตัวช้าลง แม้ว่าจะมีการจัดการปกครองท้องถิ่นในรูปเทศบาลขึ้นก็ตาม ส่วนการใช้ที่ดินสำหรับเขตพักการขนส่งหมดไป เนื่องจากรัฐบาลได้จัดให้มีการคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ขึ้นแทนที่การขนส่งทางน้ำ
3. การใช้ที่ดินในเขตเมืองชลบุรีปัจจุบันมีการใช้ที่ดินทั้งสิ้น 5,626 หน่วย ความหนาแน่น 1,184.6 หน่วยต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร เขตธุรกิจเก่ามีการใช้ที่ดินหนาแน่นสูงที่สุด เขตธุรกิจใหม่มีการใช้ที่ดินจำนวนหน่วยสุงที่สุด มีการแบ่งแยกเขตการใช้ที่ดินแน่ชัดระหว่างการใช้ที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัย การค้าการพาณิชย์และเขตอุตสาหกรรม สามารถสรุปได้ว่า เมืองชลบุรีพัฒนามาจากชุมชนหนาแน่น (Eoholis) เป็นเมืองเล็ก (Polis) มีการใช้ที่ดินแบบเมืองที่มีหลายจุดศูนย์กลาง (Multiple nuchi)
ปัจจัยสาเหตุการขยายตัวเป็นเมืองมีหลายประการคือ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ปัจจัยเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนระบบการขนส่ง (Break in transportation) ปัจจัยเกี่ยวกับการคมนาคมทางบกและนโยบายของรัฐบาล