กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9958
ชื่อเรื่อง: เศรษฐศาสตร์การเมืองว่าด้วยกระบวนการตกขอบและปฎิกิริยาต่ออำนาจรัฐและทุนของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง : กรณีศึกษากะเหรี่ยงแก่งกระจาน
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Politicl economy of super-mrginliztion of kren ethnicity nd their rections to stte power nd cpitlist penetrtion: cse study of kengkrchn
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สุธี ประศาสน์เศรษฐ
ภัทรมน สุวพันธุ์
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเมืองและการบริหารจัดการ
กะเหรี่ยง -- การดำเนินชีวิต
วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก
การก่อการร้าย
การก่อการร้าย -- การป้องกันและควบคุม
วันที่เผยแพร่: 2563
สำนักพิมพ์: คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการเป็นชายขอบของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพื้นที่โดยรอบอุทยานฯ และผลกระทบจากการถูกทำให้เป็นชายขอบ ซึ่งเกิดจากอำนาจรัฐ ทุน และวัฒนธรรมสมัยใหม่รวมทั้งศึกษาปฏิกิริยาต่าง ๆ ของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่มีต่อการจัดการป่าและที่ดินของรัฐรวมทั้งศึกษานิเวศวิทยาชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อนำไปสู่แนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องปัญหาการจัดการทรัพยากรป่าและที่ดินในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม จุดยืนทางญาณวิทยาของผู้วิจัยจึงเป็นจุดยืนของเศรษฐศาสตร์การเมืองแนววิพากษ์ที่มุ่งสลายมายาคติและเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นสำหรับกลุ่มชาติพันธ์ที่ศึกษา โดยผู้วิจัยยืนใช้หลัก Standpoint Epistemology ยืนอยู่ข้างเดียวกับผู้ถูกกดขี่ขูดรีด โดยวิธีวิทยาการวิจัยนี้จะเป็นการวิจัยในระดับพื้นที่ เพื่อการต่อต้านใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพแบบ Standpoint Epistemology ทำการศึกษาผ่านมุมมองทางเศรษฐศาสตร์การเมืองเชิงบูรณาการผลการศึกษาพบว่า กะเหรี่ยงแก่งกระจานนั้น ต้องตกอยู่ในภาวะ“คนตกขอบ” เนื่องจากปัจจัยหลายประการไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของรัฐส่วนกลางในการจัดการทรัพยากรที่ทำให้ไม่สามารถทำไร่หมุนเวียนตามวิถีชีวิตดั้งเดิม และนำมาซึ่งการสูญเสียอัตลักษณ์หลายประการไม่ว่าจะเป็นวิถีการดำรงชีวิต รวมทั้งประเพณีต่าง ๆ ที่สูญหายไป ยิ่งกว่านั้นการเข้ามาจัดการทรัพยากรป่าของรัฐยังทำให้กะเหรี่ยงแก่งกระจานถูกกระทำด้วยความรุนแรงจากกลไกอำนาจรัฐที่มีลักษณะเป็นการก่อการร้ายโดยรัฐไม่ว่า จะเป็นการถูกบังคับอพยพ การเผาบ้านเรือน รวมทั้งการฆาตกรรมแกนนำ นอกจากนี้การรุกคืบของทุนนิยมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้กะเหรี่ยงแก่งกระจานต้องตกอยู่ในภาวะ“ตกขอบ” เมื่อกะเหรี่ยงซึ่งเคยมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ไม่สามารถทำการเกษตร แบบยังชีพได้ต้องกลายมาเป็นแรงงานรับจ้างนอกพื้นที่บางส่วนยังได้รับค่าจ้างน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายเนื่องจากบางคนยังไม่มีบัตรประชาชน หรือต้องกลายเป็นแรงงานนอกระบบภายใต้ความช่วยเหลือของมูลนิธิหนึ่งที่เข้ามาส่งเสริมอาชีพให้แก่สตรี กะเหรี่ยงและต้องกลายเป็นชนชั้นแรงงานเสี่ยงแม้ว่า จะสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจให้แก่กะเหรี่ยงที่เข้าไปร่วม แต่สิ่งที่ต้องแลก คือ การไม่สามารถสืบสานลายผ้าทอที่เป็นอัตลักษณ์ของตนได้เนื่องจากต้องทอผ้าตามลายที่ตลาดต้องการและได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน ซึ่งต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด นอกจากนี้การเข้ามาของทุนข้ามชาติที่เข้ามาทำเหมืองหลายประเภทก็ล้วนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของกะเหรี่ยงทั้งสิ้น รวมทั้งการเข้ามาทำไม้ของบริษัท ทำไม้ตามนโยบายสัมปทานป่าของรัฐบาลในอดีตที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พื้นที่ป่าในแก่งกระจานสูญเสียไป และทำให้กะเหรี่ยงต้องตกเป็นจำเลยของสังคมว่าเป็นผู้ตัดไม้ทำลายป่า นอกจากนี้การตีตราแปะป้ายต่าง ๆ ที่ลดทอนความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของตน ก็ทำให้กะเหรี่ยงส่วนใหญ่ไม่ต้องการแสดงตัวตน จึงทำให้วัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ามากลืนกินวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ดั้งเดิมได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อมีความพยายามรวมตัวกันเป็นองค์กรชาวบ้านในนามเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการรื้อฟื้นความเชื่อค่านิยม วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของกะเหรี่ยง รวมทั้งได้รณรงค์ผลักดันเชิงนโยบายก็ทำให้ความภาคภูมิใจในวิถีชีวิต ความเชื่อค่านิยม รวมทั้งอัตลักษณ์ของกะเหรี่ยงค่อย ๆ ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาในที่สุดภายใต้ความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งนักวิชาการ สภาชนพื้นเมือง และองค์กรพัฒนาเอกชน
รายละเอียด: ดุษฎีนิพนธ์ (ร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2563
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9958
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:วิทยานิพนธ์ (Theses)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
57820030.pdf10.16 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น