กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7488
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคตะวันออกโดยบูรณาการในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
ชื่อเรื่องอื่นๆ: The development of model to enhnce nlyticl thinking integrting the “moderte clss more knowledge” ctivities for prthomsuks 6 students in the Estern
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สมโภชน์ อเนกสุข
สุรีพร อนุศาสนนันท์
พรทิพย์ ตรีสกุลวงษ์
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
คำสำคัญ: นักเรียนประถมศึกษา -- กิจกรรมการเรียนการสอน
ความคิดและการคิด -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา)
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาวิจัย วัดผลและสถิติการศึกษา
ทักษะทางการคิด
วันที่เผยแพร่: 2561
สำนักพิมพ์: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาและตรวจสอบโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปี ที่ 6 ในภาคตะวันออกกับข้อมูลเชิงประจักษ์และเพื่อพัฬยสรูปแบบการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคตะวันออกโดยบูรณาการโมเดล ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานภาคตะวันออกจำนวน 412 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบทดสอบการคิดวิเคราะห์และแบบสอบถามปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคุณภาพดังนี้ ค่า IOC ระหว่าง 0.60-1.00 ค่าความยากระหว่าง 0.20-0.73 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.25-0.75 ค่าความเที่ยงตามวิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน 20 เท่ากับ 0.92 และแบบสอบถามปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคุณภาพดังนี้ ค่า IOC ระหว่าง 0.60-1.00 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.374-0.731 และความเที่ยงโดยใช้วิธีสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค (Conbach’s alphacoefficient) เท่ากับ 0.97 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐาน และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติชั้นสูงในการวิเคราะห์โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ ผลการวิจัยพบว่า ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วยตัวแปรแฝง 6 ตัวแปรได้แก่ เจตคติต่อการเรียน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์บุคลิกภาพของผู้เรียนพฤติกรรมการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของครูบรรยากาศชั้นเรียน และการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์โดยพิจารณาจากค่าสถิติได้แก่  2 = 246.663, df=160,p= 0.000,  2 / df=0.542, GFI=0.944, AGFI =0.927, CFI=1.000, SMR = 0.135, RMSEA =0.036 และค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์=0.49 แสดงว่า ตัวแปรทั้งหมดในโมเดลสามารถอธิบายความแปรปรวนของตัวแปรการคิดวิเคราะห์ได้ร้อยละ 49 ตัวแปรเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการคิดวิเคราะห์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ พฤติกรรมการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของครูเจตคติต่อการเรียน และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และตามลำดับ รูปแบบการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคตะวันออก โดยบูรณาการในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ประกอบด้วย4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นเรียนรู้จากประสบการณ์จริง 3) ขั้นสร้างความรู้ใหม่และ 4 ขั้นประยุกต์ใช้
รายละเอียด: ดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7488
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:วิทยานิพนธ์ (Theses)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Fulltext.pdf5.46 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น