กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6743
ชื่อเรื่อง: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ของสถานศึกษาในสังกัดเมืองพัทยา : กรณีศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค)
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Prticiptory ction reserch for development of the knowledge mngement model of schools in the mueng ptty: cse study mueng ptty 7 school ( bn nong png khe
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ภารดี อนันต์นาวี
เจริญวิชญ์ สมพงษ์ธรรม
สุรีย์ บุญรักษา
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
คำสำคัญ: การจัดการศึกษา
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
โรงเรียนเมืองพัทยา
การบริหารองค์ความรู้
วันที่เผยแพร่: 2560
สำนักพิมพ์: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ของสถานศึกษาในสังกัดเมืองพัทยา: กรณีศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค) ด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้แทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสถานศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน หัวหน้างาน จำนวน 6 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 9 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5 คนของโรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค) การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เอกสาร การสังเกต การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตแบบมีส่วนร่วมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีวิเคราะห์เชิงปรากฏการณ์วิทยา ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการความรู้ของสถานศึกษาในสังกัดเมืองพัทยา: กรณีศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค) ด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1) ด้านการบริหารงานตามโครงสร้างการบริหารงาน 6 งาน 1.1) การบริหารงานวิชาการ ได้แก่ พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกระบวนการเรียนรู้ และการนิเทศ 1.2) การบริหารงานบุคลากร ได้แก่ การพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย การจัดทำแผนการพัฒนาบุคลากร การจัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากร ระบบพี่เลี้ยง 1.3) การบริหารงานธุรการ การเงินและพัสดุ ได้แก่ พัฒนาการจัดทำแผนพัฒนาสถานศึกษา ประกอบด้วย การจัดทำแผนพัฒนาสถานศึกษา การจัดกระบวนการพัฒนาแผน และการทบทวน 1.4) การบริหารงานกิจการนักเรียน ได้แก่ การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประกอบด้วย แผนการดำเนินการ การจัดโครงการ/กิจกรรม การติดตามประเมินผล 1.5) การบริหารงานอาคารสถานที่ ได้แก่ พัฒนาการจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย การกำหนดวางแผนการใช้อาคารสถานที่ การใช้แหล่งเรียนรู้ กำกับ และติดตาม 1.6) การบริหารงานสัมพันธ์ชุมชน ได้แก่ พัฒนาการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมกำหนดแผน การร่วมกิจกรรมตามแผน การประชาสัมพันธ์ 2) ด้านการจัดกระบวนการจัดการความรู้ ประกอบด้วย การบ่งชี้ความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ให้เป็นระบบการเข้าถึงความรู้ การประมวลและกลั่นกรองความรู้ การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ และการเรียนรู้ 3) ปัจจัยที่สนับสนุนให้การจัดการความรู้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย ภาวะผู้นำ กลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์การ เทคโนโลยี โครงสร้าง และการวัดผล ประสิทธิผลจากการนำรูปแบบการจัดการความรู้ของสถานศึกษาในสังกัดเมืองพัทยา:กรณีศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค) ด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบ มีส่วนร่วมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงการบริหาร คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ทีมครูจัดการความรู้งานบริหาร ทั้ง 6 งาน ในทุกขั้นตอน ผู้บริหารสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ การใช้เทคโนโลยีในการบริหารงาน ครูสามารถนำการจัดการความรู้ไปพัฒนาสถานศึกษาตามโครงสร้างการบริหารงาน ทำให้เกิดเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ
รายละเอียด: ดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2559
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6743
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:วิทยานิพนธ์ (Theses)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Fulltext.pdf3.41 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น