กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6428
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจออมในรูปแบบประกันของลูกค้าธนาคารกรุงไทยในอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Fctors ffecting decision mking to sving s insurnce of customers of krungthi bnks in bngpkong district, chchoengso province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ชนิสรา แก้วสวรรค์
ปนิดา วงศ์ระวีกุล
มหาวิทยาลัยบูรพา. วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์
คำสำคัญ: ประกันชีวิต
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการจัดการสาธารณะ
วันที่เผยแพร่: 2560
สำนักพิมพ์: วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของลูกค้าโดยจำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจเลือกแบบประกันของลูกค้า และปัจจัยที่มีผลต่อการออมในรูปแบบประกันที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจเลือกแบบประกันของลูกค้า ธนาคารกรุงไทยใน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัยกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นลูกค้าธนาคารกรุงไทยที่มีการออมในรูปแบบประกัน ในเขตอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งหมด 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ซึ่งมีการทดสอบความสัมพันธ์ของค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม โดยสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ Pearson Chi-square ผลการวิจัยในส่วนข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอายุในช่วง 20-30 ปี สถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน และมีรายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ในส่วนสาเหตุในการตัดสินใจออมในรูปแบบประกันชีวิต พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับปัจจัยในด้านการออมมากที่สุด รองลงมาคือ ปัจจัยด้านการลงทุน ปัจจัยด้านการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ปัจจัยด้านการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต และปัจจัยที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญเป็นลำดับสุดท้ายคือ ปัจจัยด้านการให้ความคุ้มครองผลการทดสอบสมมติฐานในปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า สถานภาพ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ในทางตรงกันข้าม เพศ อายุ และอาชีพไม่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ในส่วนปัจจัยในการออมรูปแบบประกัน พบว่า ปัจจัยด้านการลงทุน ปัจจัยด้านการออม ปัจจัยด้านการให้ความคุ้มครอง และปัจจัยด้านการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 และในทางตรงข้าม ปัจจัยด้านการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไม่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
รายละเอียด: งานนิพนธ์ (บธ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6428
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:วิทยานิพนธ์ (Theses)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Fulltext.pdf1.62 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น