Abstract:
รายงานการศึกษาปัญหาการทําคดีริบทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ความเป็นมาของการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งกฎหมายในประเทศไทย ประเทศสหรัฐอเมริกา และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนีเพื่อหาแนวทางแก้ไข ปรับปรุง กฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในขั้นตอนของการดําเนินการทําคดีตรวจสอบทรัพย์สิน จากการศึกษาพบว่าการดําเนินการริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ยังพบปัญหาอยู่ 2 กรณี (1) ตามมาตรา 27 ระยะเวลาในการทําคดีริบทรัพย์สิน ยังมีข้อจํากัดในเงื่อนระยะเวลาการทําคดีในขณะที่กฎหมายริบทรัพย์ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกฎหมายริบทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาไม่จํากัดด้วยเงื่อนเวลาดังมาตรา 27 (2) ปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการขอริบทรัพย์สินของจําเลยในการกระทําความครั้งอื่น ปัญหาการยกฟ้องคดีอาญา หรือพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีอาญา ทําให้คดีริบทรัพย์ยุติไปด้วยเป็นที่น่าเสียดาย เมื่อพบว่าทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาถูกยึดมา มีจํานวนมาก มูลค่ามากแต่เกิดความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับพยานหลักฐานคดีอาญา ส่งผลให้คดีอาญาอาจถูกศาลยกฟ้อง พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องทั้ง ๆ ที่ผู้ต้องหาเองนั้น มีคดีการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขอายุความและในทางสืบสวนยังมีพฤติการณ์ค่ายาเสพติดอยู่จากสภาพปัญหาดังกล่าว จึงได้เสนอแนะให้ปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้การดําเนินการริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพถูกต้องตามหลักการและเจตนารมณ์ของกฎหมายเหมาะสมกับหลักการ สภาพการปฏิบัติงานที่แท้จริงในการตรวจสอบทรัพย์สินของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้วิจัยจึงเห็นควรเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 เกี่ยวกับเรื่องอายุความตามมาตรา 27 และเพิ่มเติมให้มีบทบัญญัติมาตรา 32 ให้สามารถขอริบทรัพย์สินของผู้ถูกตรวจสอบทรัพย์สินสําหรับคดีความผิดครั้งอื่นได้