Abstract:
จากสภาพความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความไม่เสมอภาคทางเพศระหว่างชายหญิง จึงนํามาซึ่งปัญหาความรุนแรงในครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีความรุนแรงทางการเงิน หมายถึง การทำร้าายบุคคลหนึ่งด้วยความรุนแรงหรือความมีอํานาจในการควบคุมโดยไปคุกคามอีกฝ่ายที่ต้องพึ่งพิงโดยมีปัจจัยทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง กล่าวคือเป็นการใช้ทรัพย์สินเงินทองและของมีค่าเป็นเครื่องมือหรือตัวกระทําความรุนแรงใส่อีกบุคคลหนึ่ง เช่น การกีดกันไม่ให้ภรรยามีโอกาสทํางานนอกบ้านให้เลิกทํางาน สามีเป็นคนจัดการค้าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทําให้ภรรยารู้สึกว่าต้องพึ่งพาสามี เรื่องเงิน เป็นต้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นการกระทําที่เกิดจากผู้มีอํานาจเหนือกว่าในครอบครัวใช้อํานาจที่เหนือกว่าบีบบังคับผู้ที่ด้อยกว่าในเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน เป็นการตอกย้ำถึงทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อของคนในสังคมเรื่องชายเป็นใหญ่ ซึ่งถือเป็นความรุนแรงในครอบครัวประการหนึ่งและเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอย่างอื่นตามมาจากนิยามคําว่า “ความรุนแรงในครอบครัว” ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ถูกกระทําด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ยังขาดความเหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบันและไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศที่รับรองและคุ้มครองสิทธิสตรี ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใดคุ้มครองผู้ถูกกระทําในลักษณะนี้ จึงเกิดปัญหาช่องว่างของกฎหมาย สําหรับการคุ้มครองผู้ถูกกระทํา ผู้วิจัยเห็นว่ารัฐควรเข้ามาให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือแก่ผู้ถูกกระทําความรุนแรงทางการเงิน โดยการเพิ่มเติมขอบเขตนิยามคําว่า “ความรุนแรงใน ครอบครัว” ให้ครอบคลุมถึงความรุนแรงทางการเงินในลักษณะเดียวกันกับกฎหมายประเทศอังกฤษและอินเดีย