Abstract:
ภาวะโภชนาการเกินในเด็กก่อนวัยเรียนเกิดจากหลายปัจจัยทั้งด้านตัวเด็กการเลี้ยงดูของมารดาและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และสามารถทํานายภาวะโภชนาการเกินของเด็กก่อนวัยเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ มารดา และเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 3-5 ปีศึกษาอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกรุงเทพมหานครจํานวน 445 คู่ และครูประจําชั้น จํานวน 7 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามพฤติกรรมของเด็ก ความรู้และพฤติกรรมของมารดา สิ่งแวดล้อมที่บ้าน สิ่งแวดล้อมในศูนย์พัฒนาเด็ก และแบบบันทึกวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสถิติการถดถอยโลจิสติก ผลการวิจัยพบว่า อัตราภาวะโภชนาเกินของเด็กก่อนวัยเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน กรุงเทพมหานครเฉลี่ยร้อยละ 11.91 การวิเคราะห์ด้วยสถิติถดถอยแบบโลจิสติก พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และสามารถทํานายภาวะโภชนาการเกินของเด็กก่อนวัยเรียน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ได้แก่ พฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็ก(CF) (ORadj = 10.27, 95% CI = 3.60-29.32) กิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายของเด็ก (CA) (ORadj = 4.30, 95% CI =1.63-11.34) ความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการของมารดา (MK) (ORadj = 3.19, 95% CI =1.16-8.80) พฤติกรรมการจัดอาหารของมารดา (MP) (ORadj = 5.63, 95% CI =2.19-14.52) อาหารที่จัดเก็บในบ้าน (HF) (ORadj = 9.57, 95% CI = 3.06-29.90) พื้นที่สําหรับกิจกรรมที่บ้าน (HAr) (ORadj = 6.28, 95% CI = 2.45-16.06) และการจัดอาหารให้แก่เด็กของศูนย์ฯ (SF) (ORadj = 0.21, 95% CI = 0.05-0.91) มีอํานาจการทํานายร้อยละ 93 เขียนสมการทํานายได้ดังนี้ Logexp (ODDs) = -10.24 + 2.33CF+ 1.46CA + 1.16MK + 1.73MP + 2.26HF+ 1.84HA-1.56SF ผลการวิจัยนี้ให้ข้อเสนอแนะว่า พยาบาลและผู้มีหน้าที่ดูแลสุขภาพเด็กที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กวัยก่อนเรียนและในชุมชนสามารถนําผลการวิจัยไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและป้องกันภาวะโภชนาการเกินให้แก่เด็กก่อนวัยเรียน โดยเน้นให้มีการปฏิบัติแบบพหุระดับ