Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธ์ต้านแบคทีเรียของส่วนสกัดจากโสน (Sesbania javanica Miq.) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ FABACEAE โดยทําการหาปริมาณสารประกอบฟีนอลและฟลาโวนอยด์รวม ตรวจวัดเชิงคุณภาพของสารโพลีฟีนอลชนิดต่าง ๆ โดย ใช้วิธีโครมาโตกราฟี แบบชั้นบาง (Thin layer chromatography, TLC) ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH และ FRAP assay นอกจากนี้ยังศึกษาฤทธิ์ต้านการเจริญของเชื้อแบคทีเรียฉวยโอกาส 4 สายพันธุ์ด้วยวิธี Agar diffusion susceptibility test ผลการวิจัยพบว่า ส่วนสกัดจากใบและดอกโสนประกอบด้วยปริมาณสารประกอบฟีนอลรวมเท่ากับ 35.93±0.0004 และ 34.81±0.0008 มิลลิกรัมสมมูลกรดแกลลิกต่อกรัมของส่วนสกัด ตามลําดับ และปริมาณฟลาโวนอยด์รวมเท่ากับ 24.11±0.002 และ 23.90±0.004 มิลลิกรัมสมมูลของเควอร์เซตินต่อกรัมของส่วนสกัดตามลําดับ ทั้ งยังอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลในกลุ่มฟลาโวนอยด์ฟลาโวนที่มีหมู่ เมทิลไดไฮโดรฟลาโวนอยด์ฟลาโวนอล โอ-กลัยโคไซด์ และฟลาวาโนน โอ-กลัยโคไซด์ เมื่อทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH assay พบว่า ใบและดอกโสนมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่ดี (IC50 = 2.38 และ 2.07 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลําดับ) ผลจากการทดสอบด้วยวิธี FRAP พบว่า ส่วนสกัดใบและดอกโสนมีค่า FRAP value เท่ากับ 46.89±0.003 และ 45.90±0.003 มิลลิกรัมสมมูลของเฟอร์รัสซัลเฟตต่อกรัมของส่วนสกัด ตามลําดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ส่วนสกัดจากใบและดอกโสนสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis ดีที่สุด รองลงมา ได้แก่ Escherichia coli ATCC 25922, Staphylococcus aureus ATCC 25923 และ Pseudomonas aeruginosa ATCC 27853 ตามลําดับ (ให้ค่า MIC เท่ากับ 20, 40, 40 และ 80 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลําดับ) จากการทดลองจะเห็นได้ว่าส่วนสกัดจากใบและดอกโสนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ดีแม้ว่าจะยังไม่ดีเท่ากับเตตราซัยคลินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้กันในปัจจุบันก็ตาม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพต่อไปได้