DSpace Repository

เจตคติต่อคอมพิวเตอร์ของนิสิตชั้นปีที่ 2 (รุ่นปีการศึกษา 2541) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

Show simple item record

dc.contributor.author นัญฑา ผลิตวานนท์
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
dc.date.accessioned 2019-03-25T08:53:04Z
dc.date.available 2019-03-25T08:53:04Z
dc.date.issued 2545
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/721
dc.description.abstract การศึกษานี้เป็นการสำรวจเจตคติต่อคอมพิวเตอร์ของนิสิตชั้นปีที่ 2 จำนวน 319 คน ภาคปลาย ปีการศึกษา 2542 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และเปรียบเทียบเจตคติของนิสิตระหว่างกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ในการศึกษาและกลุ่มที่ยังไม่ลงทะเบียนเรียน ต้นภาคเรียนและปลายภาคเรียน และเปรียบเทียบเจตคติของนอสอตกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ในการศึกษาระหว่างก่อน และหลังเรียน แบบสอบถามที่ใช้ในการสำรวจนี้ คือ แบบสอบถามเจตคติต่อคอมพิวเตอร์ แบบสอบถามเรียบเรียงเป็นภาษาไทย จากแบบสอบถามของคริสเตนเซ่นและคาเนเซค มหาวิทยาลัยนอร์ทเท็กซัส รัฐเท็กซัส และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาและภาษาที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน แบบสอบถามเจตคติมี 84 คำถาม เป็นคำถาม 1๗. ถามความคิดเห็น 5 ระดับแบบลิเคิร์ต ถามเจตคติ 7 ด้าน 2). คำถามสองด้านแบบเคย์ ถามความรู้สึก 3 อย่างว่าชอบสิ่งไหน สิ่งไหนยาก และเรียนรู้จากสิ่งไหนระหว่างการอ่านหนังสือ เขียน ดูทีวี และใช้คอมพิวเตอร์ 3).ถามการมรคอมพิวเตอร์ และใช้อินเตอร์เน็ตที่บ้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) การสำรวจเก็บข้อมูล 2 ครั้ง ครั้งแรกเดือนพฤศจิกายน 2542 ครั้งที่สองเดือนกุมภาพันธ์ 2543 จากการสำรวจเจตคติต่อคอมพิวเตอร์ของนิสิต 7 ด้าน ได้ผลดังนี้ ด้านความสำคัญ ด้านความเพลิดเพลิน ด้านแรงจูงใจ/เพียรพยายาม ด้านนิสัยการเรียน ด้านความคิดสร้างสรรค์ อยู่ในระดับดี ด้านความวิตกกังวล อยู่ในระดับน้อย และด้านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียนและไม่ลงทะเบียนเรียน ต้นภาคเรียน พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ด้านนิสิยการเรียน พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 ด้านแรงจูงใจ/เพียรพยายาม เมื่อเปรียบเทียบ ปลายภาคเรียน พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ด้านนิสัยการเรียน เปรียบเทียบเจตคติของนิสัยระหว่างกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียนวิชคอมพิวเตอร์ในการศึกษา ระหว่างก่อนและหลังเรียน ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในแต่ละด้าน จากแบบสอบถามเจตคติสองด้าน นิสิตส่วนใหญ่เห็นว่าการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องยากแต่ช่วยในการเรียนรู้ นิสิตมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านเพียงร้อยละ 26 และใช้อินเตอร์เน็ตที่บ้านเพียงร้อยละ 7 ข้อแนะนำในการทำวิจัยคือ การสำรวจเจตคติในชั้นปีอื่น ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เปรียบเทียบเจตคติของนิสิตต่างวิชาเอก th_TH
dc.description.sponsorship รายงานการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบรายได้ปีงบประมาณ 2542 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา en
dc.language.iso th th_TH
dc.publisher คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th_TH
dc.subject การสำรวจทัศนคติ th_TH
dc.subject คอมพิวเตอร์ช่วยการสอน th_TH
dc.subject นักศึกษา - - ทัศนคติ th_TH
dc.subject เทคโนโลยีทางการศึกษา th_TH
dc.subject สาขาการศึกษา th_TH
dc.title เจตคติต่อคอมพิวเตอร์ของนิสิตชั้นปีที่ 2 (รุ่นปีการศึกษา 2541) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th_TH
dc.title.alternative Attitudes toward computer of second years' student, faculty of education, Burapha University en
dc.type Research
dc.year 2545
dc.description.abstractalternative This studywas survey of 319 second year students, second semester of academic year 1999, Faculty of Education, Burapha University, about attitudes toward computer. And compare attitudes between student who registered for Computer in Education course and who did not. The comparison did not the first week of the course and the last week of semester. And compare attitude of student who registered the course between before and after the course. The questionnaire used in this surveys wewe: Computer Attitude Questionnaire (CAQ ver 3.1) The questionnaires were developed by Christensen and Knezek, Texas center for Educational Technology, University of North Texas, Denton, Texas. The Questionnaires were translated into Thai by researcher and were validate for the content and used of Thai language by two Professors at Burapha University. The questionnaire was 84 item consisted of 1). 5-point Likert-type to measure attitudes in 7 areas 2). Three paired comparison, Key's semantic to measure 'preference for', 'difficulty of',and 'learn most from' of four activities: read a book, write, watch televition and use a computer. 3). Question about having computer and using internet at home. The statistics used in analyzing the data were percentage, mean, standard deviation, and t-test. Tha data were collected in November 1999 and February 2000. The surveys did in 7 areas result were found as follow: student had good attitudes in computer important, computer enjoyment, motivation/persistence, study habits, creative tendency, less anxiety and moderate attitude in using e-mail. Conpare student attitudes between who took a Computer in Education coures and who didn't at the first week of semester found significant difference at .001 in study habit and found significant different at .05 in motivation. The comparison at the last week of semester found significant different at .05 in motivation. The comparison of student who took the course between before and after the course found no significant different in any areas. From paired comparison questionnaire found that most student agreed that using computer was most difficult but they have learned most from using computer. There are only 26% have computer and 7% using internet at home. The suggestion for further research were survey in others level of student both in graduate and undergraduate. Compare students' attitude in different majors. en


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account