Abstract:
การวิจัยเรื่อง “ความต้องการในการพัฒนาตนเองของข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการและข้อเสนอแนะในการพัฒนาตนเองของข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และเปรียบเทียบความต้องการในการพัฒนาตนเอง 5 ด้าน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ วุฒิการศึกษา รายได้ ชั้นยศ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน และลักษณะงาน ประชากรที่ใช้ศึกษา คือ ข้าราชการกรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ปฏิบัติราชการประจำ จำนวน 146 นาย ชั้นยศตั้งแต่ สิบตรี, จ่าตรี, จ่าอากาศตรี ถึง พันเอก, นาวาเอก, นาวาอากาศเอก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เป็นแบบสอบถาม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานการวิจัย โดยใช้ค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ หรือ LSD ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย มีความต้องการในการพัฒนาตนเองโดยรวมในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย มีความต้องการในการพัฒนาตนเอง ทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบความต้องการในการพัฒนาตนเองกับปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ข้าราชการกรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีอายุต่างกัน มีความต้องการในการพัฒนาตนเอง ด้านการทัศนะศึกษาและดูงานและด้าน การปฏิบัติงานต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความต้องการในการพัฒนาตนเองทั้ง 5 ด้านต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีรายได้ต่างกัน มีความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านการปฐมนิเทศ, ด้านการฝึกอบรมและด้านการทัศนศึกษาและดูงานต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้าราชการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีชั้นยศและลักษณะงานต่างกัน มีความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านการปฐมนิเทศและด้านการฝึกอบรมต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05