Abstract:
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง จำแนกตามเพศ และระดับผลการเรียน กลุ่มตัวอย่างกำหนดขนาดกลุ่มตามตารางของ Krejcie and Morgan (1970, pp. 608-610) ได้กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 85 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีน จำนวน 40 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง .60 ถึง .89 ค่าความเชื่อมั่น .98 การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ค่าวิกฤต (t-test) ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า 1. ทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านผู้สอน ด้านรายวิชา และด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 1.1 ด้านรายวิชา พบว่า นักเรียนมีทัศนคติต่อวิชาภาษาจีน ว่ามีคำหรือคำศัพท์จำนวนมากอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการออกเสียงภาษาจีนใช้ฐานเสียงหลายฐานเสียง การเขียนภาษาจีนด้วยพู่กันเป็นศิลปะชั้นสูง การเขียนภาษาจีนเรียงบรรทัดจากซ้ายไปขวา อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ 1.2 ด้านผู้สอน พบว่า นักเรียนมีทัศนคติต่อครูผู้สอนว่าเป็นตัวอย่างในการออกเสียงภาษาจีนที่ถูกต้อง ผู้สอนมีการเตรียมเนื้อหาล่วงหน้า และผู้สอนมีการปรับเนื้อหาในบทเรียนให้มีความทันสมัยและนำไปใช้ได้จริง ตามลำดับ 1.3 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า นักเรียนรู้สึกชอบที่ครูอธิบายการทำกิจกรรมด้วยภาษาจีน กิจกรรมในวิชาภาษาจีนน่าสนใจ และทุกครั้งที่มีกิจกรรมใหม่ ๆ จะทำให้นักเรียนรู้สึกตื่นเต้น ตามลำดับ 2. การเปรียบเทียบทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง จำแนกตามเพศชายและหญิง โดยรวมและรายด้าน มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 3. ทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 จำแนกตามผลการเรียน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้น ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน แตกต่างกันอย่างไม่มี นัยสำคัญทางสถิติ