dc.contributor.advisor |
ภารดี มหาขันธ์ |
|
dc.contributor.advisor |
ภรดี พันธุภากร |
|
dc.contributor.author |
Yanxiong, Wei |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2023-05-12T03:08:57Z |
|
dc.date.available |
2023-05-12T03:08:57Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6583 |
|
dc.description |
ดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษารูปแบบคติสัญลักษณ์ของกลองมโหระทึก ในประเทศกลุ่มลุ่มน้ำโขง ที่ปรากฏตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 2. วิเคราะห์ถึงบทบาทของกลองมโหระทึกในวิถีชีวิตคนในสังคมเกษตรกรรมลุ่มน้ำโขงและ 3. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงบทบาท และสถานภาพของกลองมโหระทึกในประเทศไทย เพื่อหาแนวทางการอนุรักษ์สืบสาน และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่านี้ให้ดํารงอยู่สืบไปโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์และนําเสนอผลการวิจัยในรูปแบบพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่ากลองมโหระทึกเป็นมรดกภูมิปัญญาที่สืบสานขับเคลื่อนเชื่อมโยงทางด้านวัฒนธรรมร่วมระหว่างภาคใต้ของประเทศจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลองมโหระทึก ได้แพร่กระจายอยู่ในภาคใต้ของประเทศจีนและบรรดาประเทศอาเซียน ได้แก่ ประเทศจีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชาและเวียดนาม บทบาทสําคัญคือการใช้ประกอบในพิธีกรรมตามความเชื่อที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นสัญลักษณ์ของอํานาจเกียรติยศ ความร่ํารวย ฐานันครการใช้สำหรับส่งอาณัติสัญญาณในการระดมพลการสงคราม การแจ้งข่าว รวมถึงการใช้เป็นเครื่องดนตรีในงานบันเทิงและงานประเพณีต่าง ๆ ด้วยปัจจุบันแม้ว่ากลองมโหระทึกจะยังมีใช้อยู่ทั้งในงานพระราชพิธีประเพณีสําคัญ รวมถึงการใช้ในการประกอบพิธีกรรมของกลุ่มชนเผ่าต่าง ๆ ของหลายประเทศ ทว่าได้ลดบทบาทและความสําคัญลงที่สําคัญยังคงอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการสูญหาย อย่างมากทั้งในมิติของศิลปะรวมถึงวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกลองมโหระทึกที่เกิดขึ้นทั่วไปในกลุ่มประเทศที่ทําการศึกษา ดังนั้นจึงควรมีการนําผลวิจัยนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการอนุรักษ์สืบทอด และฟื้นฟูวัฒนธรรมกลองมโหระทึกให้ดํารงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบต่อไป |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
|
dc.rights |
มหาวิทยาลัยบูรพา |
|
dc.subject |
กลอง |
|
dc.subject |
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาภาษาไทย |
|
dc.subject |
กลองมโหระทึก |
|
dc.title |
กลองมโหระทึก : มรดกทางวัฒนธรรมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง |
|
dc.title.alternative |
Kettle drum: culturl heritge long the bsin of Mekong river |
|
dc.type |
วิทยานิพนธ์/ Thesis |
|
dc.description.abstractalternative |
Objectives of the research included 1. to study the Kettle drum’s and its unique among the Mekong sub region’s countries that have been shown evidences from its long historical and up to the present time 2. toanalyse how the drum related to farmers lifestyle in this region and 3. toanalyse changing trend of its roles in Thailand in order to preserve, continue and development this cultural valued to be continued in accordance with this research for further development and disseminations. The research findings found that the Kettle drum was one of the indigenous knowledge of Chinese and southeast Asia cultural heritages, as the Kettle drum was spread in the southern part of China and some countries in Asia such as China, Myanmar, Laos, Thailand, Cambodia and Vietnam. Roles of the Kettle drum was strongly involved with belief and daily practices as well as honour, wealthy and power. The Kettle drum was also be used in gathering people for joining wars, making announcements and to be used as music instrument in traditional events. At the present time many countries still use the Kettle drum as music instrument to important events in particular for the Kings and ethnic significant events. Recently there is a level of concern of losing the use Kettle drum in many aspects, therefore we should use this research findings to be a guidance for using, preservation and renovation of the Kettle drum for benefitial of our future generation. |
|
dc.degree.level |
ปริญญาเอก |
|
dc.degree.discipline |
ภาษาไทย |
|
dc.degree.name |
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|
dc.degree.grantor |
มหาวิทยาลัยบูรพา |
|