Abstract:
ปัญหาการคงอยู่ในงานของวิชาชีพพยาบาลนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะ ในกลุ่มพยาบาล Generation Y การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการคงอยู่ในงานและปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพ Generation Y ได้แก่ สัมพันธภาพกับผู้ร่วมงาน ภาระครอบครัวการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจความจ าเจของงาน ค่าตอบแทน โอกาสก้าวหน้า ในอาชีพ และบรรยากาศองค์การกลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ ที่เกิดระหว่าง พ.ศ. 2523-2537 และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 1 ปี ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งจ านวน 104 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สัมพันธภาพกับผู้ร่วมงาน ภาระครอบครัว การมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ ความจ าเจของงาน ค่าตอบแทน โอกาสก้าวหน้าในอาชีพ บรรยากาศองค์การ และการคงอยู่ในงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่าพยาบาลวิชาชีพ Generation Y ในโรงพยาบาลที่ท าการศึกษา มีการคงอยู่ ในงาน เฉลี่ย 10.07 ปี (SD =6.49, Range= 2-29)โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานในโรงพยาบาล ที่ท าการศึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ย 4.64 ปี (SD =2.69, Range= 2-14)และระยะเวลา ที่วางแผนจะอยู่ปฏิบัติงานต่อไป เฉลี่ย 5.42 ปี (SD =5.37, Range= 0-25)และพบว่ามีเพียงปัจจัย เดียวคือโอกาสก้าวหน้าในอาชีพที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติกับการคงอยู่ในงาน ของพยาบาลวิชาชีพ Generation Y โดยมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ า (r= .26, p< .05) และมีอิทธิพลต่อการคงอยู่ในงาน (B = .26) โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนการคงอยู่ในงาน ของพยาบาลวิชาชีพ Generation Y ได้ร้อยละ 7 (R 2 =.07) อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัย เสนอแนะว่า ผู้บริหารควรให้ความส าคัญกับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในวิชาชีพของพยาบาล เพื่อให้พยาบาลวิชาชีพ Generation Y มีการการคงอยู่ในงานให้สูงขึ้น