Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการหาโอกาสในการเปิดธุรกิจสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นตัวแทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กพิเศษ ผู้ปกครองที่มีบุตรเป็นเด็กพิเศษ และผู้ประกอบการ จำนวน 16 คน โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึก นำข้อมูลมาวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT analysis) และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก (PESTEL Analysis) เพื่อให้ทราบถึงแนวทางและโอกาสของการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษ จากการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก พิเศษ คือการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษต้องขอใบอนุญาตจัดตั้งจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีบุคลากรที่ความรู้ความสามารถเฉพาะทางเด็กพิเศษ และควรเตรียมการด้านเอกสาร สถานที่ความสะอาด ความปลอดภัยให้พร้อมต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งธุรกิจสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษยังไม่มีในพื้นที่ที่ทำการศึกษาจึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มธุรกิจ ทั้งนี้ยังมีอุปสรรคในเรื่องของผู้ปกครองเลือกใช้คลินิกกระตุ้นมากกว่าการนำบุตรฝากดูแลกับสถานรับเลี้ยงเด็ก ส่วนการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกของการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษพบว่า การเมืองไม่มีผลโดยตรงต่อการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษ โดยเศรษฐกิจมีผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากในช่วงสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำผู้ปกครองไม่สามารถนำบุตรหลานเข้ามาฝากดูแลในสถานรับเลี้ยงเด็กได้เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ด้านสังคมได้เน้นถึงเรื่องการเสริมสร้างการเรียนรู้ ทักษะและการกระตุ้นให้เด็กกลุ่มนี้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้านเทคโนโลยีต้องคำนึงถึงเรื่อง เครื่องมือที่ทันสมัยที่สามารถนา มาช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการ ด้านกฎหมายมีบทบาทมากในการเปิดธุรกิจ ต้องศึกษาให้ละเอียดรอบครอบถึงการคุ้มครองด้านต่าง ๆ และด้านสิ่งแวดล้อมในการเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กพิเศษควรอยู่ในบริเวณที่มีการคมนาคมสะดวก มีอากาศถ่ายเท ไม่อยู่ใกล้โรงงาน อุตสาหกรรม จะทำให้เด็กสามารถได้รับอากาศที่บริสุทธิ์และปรับตัวได้ดี