Abstract:
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาในการบริหารอาคารชุด 2) ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาในการบริหารอาคารชุดโดยมีการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed method) ในเชิงปริมาณ (Quantitative research) โดยการสำรวจ (Survey research method) และเชิงคุณภาพโดยการประชุมกลุ่ม (Focus group) กับผู้จัดการนิติบุคคลและคณะกรรมการอาคารชุด โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลซึ่งจำแนก 6 ด้าน ได้แก่ เพศ อายุ การศึกษา สถานภาพ อาชีพและรายได้ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้พักอาศัยภายในอาคารชุดเดอะฮักคอนโด บางแสน จังหวัดชลบุรี จำนวน 308 คน โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Average) และส่วนเบี่ยงเลนมาตรฐาน (Standard deviation) สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ใช้สถิติ One-way ANOVA/ F-test ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อปัญหาในการบริหารอาคารชุดของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 308 คน โดยภาพรวมของระดับปัญหาในการบริหารอาคารชุดอยู่ในระดับปานกลางและในแต่ละด้าน มีระดับปัญหาโดยเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการเงิน ด้านบำรุงรักษาอาคาร ด้านการบริหารจัดการทั่วไปและด้านบุคลากร ซึ่งทุก ๆ ด้านมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง และจากผลการวิจัยความสัมพันธ์ปัจจัยส่วนบุคคลกับปัญหาในการบริหารอาคารชุดโดยวิธี One-way ANOVA/ F-test พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุและรายได้ส่งผลต่อปัญหาในการบริหารอาคารชุด ในขณะที่ปัจจัยส่วนบุคคลด้าน เพศ การศึกษา สถานภาพ อาชีพ ไม่ส่งผลต่อปัญหาในการบริหารอาคารชุดในส่วนของผลการประชุมกลุ่ม (Focus group) พบว่า ปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตหลุดบ่อย แก้ไขโดยให้รีเซ็ตระบบอินเทอร์เน็ตและบำรุงรักษาเครื่องกระจายสัญญาณอยู่เสมอ รองลงมา คือ ปัญหาการชำระค่าส่วนกลางล่าช้า แก้ไขโดยแจ้งอัตราค่าปรับสำหรับผู้ที่ค้างชำระโดยอ้างอิง พ.ร.บ.อาคารชุด ปัญหารถไม่มีสติ๊กเกอร์เข้ามาจอด แก้ไขโดยให้ทำการติดแขนกั้นรถยนต์เข้าออกเพื่อป้องกันรถยนต์จากบุคคลภายนอก และปัญหาบุคลากรไม่มีความรู้ความสามารถประสบการณ์ แก้ไขโดยทำการส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมเฉพาะด้านเกี่ยวกับวิชาชีพการบริหารอาคารชุด