Abstract:
การศึกษาผลของการประนอมข้อพิพาทในชั้นพนักงานอัยการ: กรณีศึกษา สำนักงานอัยการคุ้มครอง
สิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีในสังกัดภาค 2 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาลักษณะของเรื่อง
ที่เข้าสู่กระบวนการประนอมข้อพิพาทในชั้นพนักงานอัยการ (2) เพื่อศึกษาผลของการประนอมข้อพิพาท
ในชั้นพนักงานอัยการ และ (3) เพื่อเปรียบเทียบผลของการประนอมข้อพิพาท จำแนกตามลักษณะของเรื่องที่เข้าสู่
กระบวนการประนอมข้อพิพาทในชั้นพนักงานอัยการ โดยใช้วิธีการวิจัยเอกสาร ซึ่งเป็นข้อมูลจากเอกสารสารบบ
ประนีประนอมข้อพิพาทคดีแพ่งและอาญาของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีภายในหน่วยงานสังกัดภาคที่ 2 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 พบว่า
มีจำนวนทั้งสิ้น 106 เรื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบบันทึกข้อมูลสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า พื้นที่ที่มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการประนอมข้อพิพาทมากที่สุด คือ จังหวัดระยอง
ประเภทคดีที่เข้าสู่กระบวนการเกือบทั้งหมดเป็นคดีแพ่ง โดยคู่กรณีส่วนใหญ่เป็นบุคคล ลักษณะของข้อพิพาท
ที่เข้าสู่กระบวนการเป็นข้อพิพาทเรื่องหนี้มากที่สุด ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากข้อขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์
ซึ่งเกือบทั้งหมดพนักงานอัยการเป็นผู้ทำหน้าที่ประนอมข้อพิพาท สำหรับผลการประนอมข้อพิพาท ในภาพรวม
พบว่า ร้อยละ 44.34 ของเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการประนอมข้อพิพาทสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ และร้อยละ 36.79
ยุติการไกล่เกลี่ย ส่วนเรื่องที่ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 18.87 สำหรับระยะเวลาของกระบวนการประนอม
ข้อพิพาทโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16 วัน โดยเรื่องที่สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จใช้ระยะเวลาในการประนอมข้อพิพาทเฉลี่ย
15 วัน เรื่องที่ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จใช้ระยะเวลาในการประนอมข้อพิพาทเฉลี่ย 14 วัน และเรื่องที่ต้องยุติการไกล่เกลี่ย
มีระยะเวลาในการประนอมข้อพิพาทเฉลี่ย 18 วัน