Abstract:
การศึกษาเรื่อง “การศึกษาความต้องการและแรงจูงใจในการทางานวิจัยสถาบันของบุคลากร สายสนับสนุนวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา” ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความต้องการ และแรงจูงใจในการทำงานวิจัยสถาบัน เพื่อเปรียบเทียบระดับความต้องการในการทำงานวิจัยสถาบัน จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับความต้องการในการทำงานวิจัยสถาบัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทำแผนงาน โครงการหรือกิจกรรมของผู้บริหารในการส่งเสริมแรงจูงใจในการทำงานวิจัยสถาบัน เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถามจากบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 63 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าทีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่างรายคู่ใช้วิธีการทดสอบความแตกต่างรายคู่ โดยวิธี LSD. และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05
ผลการศึกษา พบว่า ความรู้เกี่ยวกับการทำงานวิจัยสถาบัน ภาพรวมและทุกข้ออยู่ในระดับปานกลาง (= 2.64, = 0.83) ความต้องการในการทำงานวิจัยสถาบัน ภาพรวมและทุกข้ออยู่ในระดับมาก (= 3.88, = 0.80) เมื่อจำแนกเป็นรายข้อ พบว่า ต้องการให้คณะวิทยาศาสตร์ส่งเสริม
หรือสนับสนุนให้ทำงานวิจัยสถาบัน เป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ ต้องการได้รับการพัฒนาความรู้
ประสบการณ์หรือทักษะในการทำวิจัยสถาบัน และต้องการได้รับการพัฒนาความรู้ในการเขียน
โครงการวิจัย ตามลำดับ แรงจูงใจในการทำงานวิจัยสถาบันของบุคลากร ภาพรวมและทุกด้านอยู่ในระดับมาก (= 3.86, = 0.48) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความพึงพอใจที่เกิดขึ้นจากงานที่ได้รับ
มอบหมาย มีค่าเฉลี่ยมากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชาและเพื่อน
ร่วมงาน ด้านความสำเร็จในการทำงาน ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านความรู้สึกมั่นคงในอาชีพ
และความมั่นคง ด้านสภาพทางกายภาพและสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน ด้านนโยบายและการบริหาร
ด้านสถานะทางอาชีพและความก้าวหน้าในอาชีพ และด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ตามลำดับ
ผลการวิเคระห์ความต้องการในการทางานวิจัยสถาบันของบุคลากร จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า บุคลากรสายสนับสนุนวิชาการที่มีเพศ อายุ ประเภทบุคลากร สังกัด ระดับการศึกษา และระยะเวลาการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีความต้องการในการทำงานวิจัยสถาบันไม่แตกต่างกัน ส่วนผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทำงานวิจัยสถาบันกับความต้องการในการทำงานวิจัยสถาบัน พบว่า ภาพรวมและรายด้านมีความสัมพันธ์กันทางบวก ในระดับต่ำถึงระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ข้อเสนอแนะ เห็นว่าคณะวิทยาศาสตร์ควรจัดอบรม เสวนา หรือให้ความรู้ในการทำวิจัยสถาบันแก่บุคลากรอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาความต้องการและสร้างแรงจูงใจในการทำวิจัยสถาบัน เป็นอันดับที่ 1 ควรพิจารณานำผลงานไปประกอบการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยให้ค่าน้ำหนักที่สูง เนื่องจากต้องมีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และใช้เวลาในการผลิตผลงานค่อนข้างมาก และเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำผลงานควรสนับสนุนให้ได้เงินประจำตำแหน่งชำนาญการ ซึ่งเห็นว่าสำคัญมากในการสร้างแรงจูงใจในการทำวิจัยสถาบัน เป็นอันดับที่ 2 และควรมีแนวปฏิบัติหรือนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการทำวิจัยสถาบัน เพื่อนำไปสู่ความก้าวหน้าในอาชีพของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ เป็นอันดับที่ 3 ตามลำดับ