Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพครูของนิสิตศึกษาศาสตร์ที่ได้รับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช้กระบวนการเชิงปฏิบัติ กับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพใช้วิธีการตามปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นิสิตคณะศึกษษศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2543 จำนวน 32 คน แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มทดลอง จำนวน 16 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแผนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช่กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติ แผนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช้วิธีการตามปกติ แบบทดสอบถามเจตคติต่อวิชาชีพครู ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า
1.หลังจากนิสิตได้รับการฝึกประสบการณ์โกยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติแล้วมีเจตคติทีดีต่อวิชาชีพครูสูงกว่าก่อนได้รับการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. หลังจากนิสิตได้รับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช้วิธีการตามปกติแล้วมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพครูสูงกว่าก่อนได้รับการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นิสิตที่ได้รับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติกับนิสิตที่ได้รับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยใช้วิธีการปกติมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพครูแตกต่ากันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัยสรุปได้ว่า การใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูส่งผลต่อเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพครูของนิสิตศึกษาศาสตร์