Abstract:
งานวิจัยเรื่อง การประยุกต์ใช้สมุนไพรไทยเพื่อควบคุมแบคทีเรียก่อโรคในคนและสัตว์น้ำใน
ถุงน้ำเชื้อกุ้งแชบ๊วยที่เก็บรักษาแบบแช่แข็งแบบเทคโนโลยีดั้งเดิมและแบบกล่องโฟม ในปีที่ 2 เป็น
การศึกษาถึงการใช้สารสกัดสมุนไพรไทยจำนวน 2 ชนิด ได้แก่ สารสกัดใบมะรุม และสารสกัดขิง
เปรียบเทียบกับสารปฏิชีวนะผสมที่มีประสิทธิภาพ คือ Penicillin-streptomycin ในการเก็บรักษา
ถุงน้ำเชื้อกุ้งแชบ๊วยแบบแช่แข็งโดยใช้เครื่องแช่แข็งแบบอัตโนมัติ เป็นระยะเวลานาน 1 ปี ผลการศึกษา
พบว่า สารสกัดใบมะรุมความเข้มข้น 0.1 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร มีศักยภาพเหมาะสมในการเก็บรักษา
ถุงน้ำเชื้อกุ้งแชบ๊วย เนื่องจากสามารถรักษาเปอร์เซ็นต์สเปิร์มที่มีชีวิตของกุ้งแชบ๊วยให้มีคุณภาพ
ดีเยี่ยมตลอดการเก็บรักษาเป็นระยะเวลานาน 1 ปี โดยมีคุณภาพไม่แตกต่างจากน้ำเชื้อที่เติม
ยาปฏิชีวนะ Penicillin-streptomycin ความเข้มข้น 0.1% นอกจากนั้นยังสามารถลดปริมาณแบคทีเรีย
กลุ่มเฮทเทอโรโทรปทั้งหมดด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าการเติมยาปฏิชีวนะ Penicillin-streptomycin
ความเข้มข้น 0.1% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) หลังการเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 1 ปี ต่อมา
ทำการศึกษาถึงการเก็บรักษาถุงน้ำเชื้อกุ้งแชบ๊วยแบบแช่แข็งโดยการใช้กล่องโฟม เป็นระยะเวลานาน
3 เดือน พบว่าสารสกัดใบมะรุมและขิงมีประสิทธิภาพในการรักษาเปอร์เซ็นต์สเปิร์มที่มีชีวิตของ
กุ้งแชบ๊วยได้ใกล้เคียงกันและไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P>0.05) กับการเติมยาปฏิชีวนะ
Penicillin-streptomycin ความเข้มข้น 0.1% ตลอดการเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่อย่างไร
ก็ตามเมื่อประเมินถึงประสิทธิภาพในการลดปริมาณแบคทีเรียพบว่า สารสกัดขิงสามารถลดปริมาณ
แบคทีเรียกลุ่มเฮทเทอโรโทรปทั้งหมดได้เทียบเท่ายาปฏิชีวนะ Penicillin-streptomycin ความ
เข้มข้น 0.1% และสูงกว่าสารสกัดใบมะรุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05)