Abstract:
ปัจจุบันโรงพยาบาลในประเทศไทยหลายแห่งได้นำเอาโคมไฟแอลอลีดีมาใช้ในการรักษาภาวะตัว
เหลืองในทารกแรกเกิด แต่เนื่องจากโคมไฟนี้นำเข้ามาจากต่างประเทศจึงมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูง และหากเครื่องเกิดการชำรุดเสียหายต้องใช้เวลารอรับบริการนาน ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทยขาดแคลนเครื่องมือชิ้นนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และเกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของคนไทยด้วย
คณะผู้วิจัยจึงได้นำเสนอการพัฒนาชุดโคมไฟแอลอีดีสำหรับรักษาทารกตัวเหลืองด้วยระบบสมองกลฝังตัวที่มีต้นทุนในการผลิตต่ำและมีประสิทธิภาพในการรักษาเทียบเท่ากับโคมไฟแอลอีดีที่นำเข้าจากต่างประเทศโคมไฟแอลอีดีที่พัฒนาขึ้นใช้แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงขนาด 12 โวลต์ ผ่านตัวแปลงไฟฟ้ากระแสสลับแรงดัน 220 โวลต์ ใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุดเท่ากับ 54 วัตต์ สามารถควบคุมการทำงานแบบไร้สายได้ นอกจากนั้นยังมีหน้าจอแสดงค่าความเข้มแสงเชิงสเปกตรัม อุณหภูมิภายในโคมไฟ เวลาการใช้งานสะสมของหลอดแอลอีดีวันและเวลาในปัจจุบัน โคมไฟนี้ได้ผ่านการรับมาตรฐานจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ให้ค่าความเข้มแสงเชิงสเปกตรัมสูงสุดเท่ากับ 87.0 ± 3.1 uw/cm2/nm ที่ระยะห่างจากตัวโคมไฟ 30 เซนติเมตร ที่มีค่าความยาวคลื่นเท่ากับ 456.15 ± 0.3 นาโนเมตร ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาทางการแพทย์สากล โครงการวิจัยได้นำโคมไฟแอลอีดีที่พัฒนาขึ้นไปทดสอบรักษาทารกตัวเหลืองจำนวน 50 เคส ณ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แล้วนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับผลการรักษาของโคมไฟแอลอีดียี่ห้อ Fanem รุ่น Bilitron 3006 ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศและนิยมนำมาใช้งานในโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย ผลการทดสอบพบว่าอัตราการลดลงของบิลิรูบิน (ซึ่งเป็นพารามิเตอร์หลักในการประเมิน
ประสิทธิภาพการรักษา) มีค่าสูงกว่า อย่างไรก็ตาม พารามิเตอร์บางตัวอาจบ่งชี้ถึงสาเหตุได้ไม่ชัดเจนเพราะมีปัจจัยอื่น ๆ มาเกี่ยวข้อง