DSpace Repository

ผลการเสริมฤทธิ์กันของสารสกัดทองพันชั่งกับยาปฏิชีวนะในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ดื้อยา

Show simple item record

dc.contributor.author วิสาตรี คงเจริญสุนทร
dc.contributor.author ณัฐกานต์ ถาแก้ว
dc.contributor.author นันทวัน ชนะภัย
dc.contributor.author สุพาภร ส่งสกุล
dc.contributor.author เอกชัย บุดดา
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิทยาศาสตร์
dc.date.accessioned 2019-03-25T09:14:52Z
dc.date.available 2019-03-25T09:14:52Z
dc.date.issued 2554
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2431
dc.description.abstract การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาผลการเสริมฤทธิ์กันของสารสกัดทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus) เมื่อใช้ร่วมกับ ยาปฏิชีวนะ คือ แอมพิซิลิน และเตตราไซคลิน ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสายพันธ์ุดื้อยา 3 ชนิด Acinetobacter baumannii, Pseudomonas aeruginosa และ methicillin- resistant Staphylococcus aureus (MRSA) ด้วยการหาค่าความเข้มข้นน้อยที่สุดที่ สามารถยับยั้งแบคทีเรียได้ (MIC) โดยวิธี Agar diffusion susceptibility test พบการเสริมฤทธิ์กันของทองพันชั่งและยาปฏิชีวนะใน การยับยั้งเชื้อแบคทีเรียดื้อยาสามชนิด ได้แก่ การเสริมฤทธิ์กันระหว่างสารสกัดทองพันชั่งร่วมกับยาเตตราไซคลินมีประสิทธิภาพในการ ยับยั้ง A. baumannii ได้ดีที่สุด โดยค่า MIC ลดลง 64 เท่า เมื่อเทียบกับการใช้เฉพาะสารสกัดทองพันชั่งเพียงอย่างเดียว เมื่อใช้ยา เตตราไซคลินที่ความเข้มข้นถึง 1.25 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร การเสริมฤทธิ์กันระหว่างสารสกัดทองพันชั่ง และยาเตตราไซคลิน สามารถ การยับยั้งการเจริญของเชื้อ P. aeruginosa เมื่อใช้ร่วมกับยาเตตราไซคลินที่ความเข้มข้นต่ำ 1.25 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ค่า MIC เดิมของ สารสกัดทองพันชั่งจะลดลง 4 เท่า และการเสริมฤทธิ์กันในการยับยั้งเชื้อ MRSA ของสารสกัดทองพันชั่งร่วมกับยาเตตราไซคลินและ แอมพิซิลินสามารถลดค่า MIC เดิมลงได้ 4 เท่า เมื่อใช้ยาเตตราไซคลินที่ความเข้มข้น 2.5 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และเมื่อใช้ยาแอมพิซิลิน 20 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร งานวิจัยนี้ยังพบว่าใช้สารสกัดทองพันชั่งร่วมกับยาเตตราไซคลินมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้สารสกัดทองพันชั่ง ร่วมกับยาแอมพิซิลินในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสายพันธ์ุดื้อยา th_TH
dc.language.iso th th_TH
dc.subject ซูโดโมนาสแอรูจิโนซา th_TH
dc.subject ทองพันชั่ง (พืช) th_TH
dc.subject ปฏิชีวนะ th_TH
dc.subject สารสกัดจากพืช th_TH
dc.subject อะซิเนโตแบคเตอร์ th_TH
dc.subject สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช en
dc.title ผลการเสริมฤทธิ์กันของสารสกัดทองพันชั่งกับยาปฏิชีวนะในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ดื้อยา th_TH
dc.title.alternative Synergistic antibacterial effect of Rhinacanthus nasutus extract and antibiotics on antibiotic - resistant bacteria en
dc.type บทความวารสาร th_TH
dc.issue 1
dc.volume 16
dc.year 2554
dc.description.abstractalternative This study was aimed to test antibacterial activity of Rhinacanthus nasutus extract combined with two antibiotics (ampicillin and tetracycline) against three strains of antibiotic resistant bacteria; Acinetobacter baumannii, Pseudomonas aeruginosa and methicillin- resistant Staphylococcus aureus (MRSA). Using the agar diffusion susceptibility, the minimal inhibitory concentration (MIC) value was determined for synergistic effect. The results indicated the synergistic effect of Rhinacanthus nasutus extract with two antibiotics as the potential antimicrobial agents to inhibit three species of antibiotic resistant bacteria. The most effective synergistic activity against A. baumannii was the combination of 80 mg/ml R. nasutus with 1.25 mg/ml tetracycline, which reduced 64-fold of the MIC using R. nasutus’s extract alone. We also found the synergistic effect of 5 mg/ml R. nasutus with 1.25 mg/ml tetracycline which was able to inhibit the growth P. aeruginosa. This combination reduced at least four fold of MICs of R. nasutus’s extract alone. Moreover, we found synergistic effect of R. nasutus with either tetracycline, or ampicillin that could reduce 4-fold of the MICs when using tetracycline or ampicillin at the concentration of 1.25 mg/ml and 20 mg/ml, respectively. Thus, it was concluded that combinations of R. nasutus with tetracycline were more effective antimicrobial activity than combination of R. nasutus with ampicillin against some strains of antibiotic resistant bacteria. en
dc.journal วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา = Burapha science journal
dc.page 56-68.


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account