Abstract:
งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ และการเกิดสนิมของเหล็กเสริมใน คอนกรีตที่เผชิญสิ่งแวดล้อมทะเลเป็นเวลา 3 ปี วัสดุประสานที่ใช้ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภทที่ 1 ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 5 ปูนซีเมนต์ปอซโซลาน เถ้าลอย และผงหินปูน ใช้ อัตราส่วนเถ้าลอยต่อวัสดุประสาน 0.20 0.40 และ 0.60 อัตราส่วนผงหินปูนต่อวัสดุประสาน 0.05 0.10 และ 0.15 และอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสาน 0.40 0.50 และ 0.60 ทําการฝังเหล็กเสริม RB12 ในตัวอย่างคอนกรีตทรงลูกบาศก์ขนาด 20x20x20 ซม3 ที่ระยะหุ้มเหล็กเสริม 1 ซม 2 ซม 5 ซม และ 7.5 ซม แล้วบ่มตัวอย่างคอนกรีตเป็นเวลา 28 วัน ก่อนนําไปเผชิญสิ่งแวดล้อมทะเลบริเวณน้ำขึ้นน้ำลง ที่ตําบลอ่างศิลา อําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อครบระยะเวลา 3 ปี จึงเก็บตัวอย่างคอนกรีตมา ทดสอบหาปริมาณคลอไรด์ที่ระดับความลึกต่าง ๆ จากผิวหน้าคอนกรีต กําลังอัดคอนกรีต และนํา เหล็กเสริมที่ฝังไว้มาทดสอบหาพื้นที่การเกิดสนิมและการสูญเสียน้ำหนักของเหล็กเสริมเนื่องจาก เกลือคลอไรด์
จากผลการทดลองพบว่า คอนกรีตที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ปอซโซลานมีความต้านทาน การแทรกซึมคลอไรด์ดีที่สุด สําหรับคอนกรีตที่ใช้วัสดุประสาน 2 ชนิด พบว่า คอนกรีตที่ผสมเถ้า ลอยหรือผงหินปูนไม่เกินร้อยละ 5 มีความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์มากกว่าคอนกรีตที่ใช้ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภททที่ 1 เพียงอย่างเดียว สําหรับคอนกรีตที่ใช้วัสดุประสาน 3 ชนิด พบว่า การใช้สัดส่วนปริมาณเถ้าลอยสูงและผงหินปูนน้อยแทนที่ปูนซีเมนต์ในคอนกรีตทําให้ความ ต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์สูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของกําลังอัดคอนกรีตทําให้ความต้านทานการ แทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีตสูงขึ้น และการสูญเสียน้ำหนักของเหล็กเสริมลดลง