Abstract:
การวัดตัวแปรที่มีประโยชน์หลาย ๆ ตัว ได้แก่ อุณหภูมิสูงสุด อุณหภูมิต่่าสุด ความยาวนานของแสงแดด ความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเล ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันไอ และรังสีแสงอาทิตย์ที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2548 ถึงปี พ.ศ. 2552 ถูกน่ามาใช้เพื่อประเมินค่าและสร้างตัวแบบข่ายงานระบบประสาทเพื่อทำนายค่ารังสีแสงอาทิตย์เฉลี่ยรายวัน ผลการศึกษารูปแบบรังสีแสงอาทิตย์ของจังหวัดชลบุรีแสดงให้เห็นว่ารังสีแสงอาทิตย์และรังสีแสงอาทิตย์เฉลี่ยมีค่าสูงที่สุดในฤดูร้อน (ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) รองลงมาเป็นฤดูฝน (ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม) และฤดูหนาว (ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์) เมื่อท่าการรวมกลุ่มของวันที่มีค่ารังสีแสงอาทิตย์มากพอที่จะน่าไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพของพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการวิเคราะห์การแบ่งกลุ่มแล้ว จะสามารถจัดกลุ่มวันเหล่านี้ได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 (Cluster 1) เป็นวันที่มีความยาวนานของแสงแดดสั้น (ประมาณ 6 ชั่วโมง) มีอุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส มีความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเลประมาณ 1006 พาสคาล และมีความชื้นสัมพัทธ์ต่่ากว่า 70 เปอร์เซนต์ กลุ่มที่ 2 (Cluster 2) เป็นกลุ่มวันที่มีความยาวนานของแสงแดดแปรผันมาก (ระหว่าง 7–11 ชั่วโมง) จึงมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 34–37 องศาเซลเซียส มีความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเลประมาณ 1007 พาสคาล และมีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 70 เปอร์เซนต์ ส่วนกลุ่มที่ 3 (Cluster 3) เป็นวันที่มีความยาวนานของแสงแดดมาก (ประมาณ 10 ชั่วโมง) มีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 33 องศาเซลเซียส มีความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเลประมาณ 1008 พาสคาล และมีความชื้นสัมพัทธ์สูงมากกว่า 70 เปอร์เซนต์ ตัวแบบข่ายงานระบบประสาทอย่างง่ายแบบ MLP ที่ประกอบด้วยตัวแปรอินพุท 6 ตัว โหนดของชั้นซ่อนซึ่งมีอยู่เพียงชั้นเดียว จ่านวน 5 โหนด และโหนดของชั้นเอาท์พุท จ่านวน 1 โหนด เป็นตัวแบบข่ายงานระบบประสาทที่มีสมรรถนะดีที่สุดในการท่านายค่ารังสีแสงอาทิตย์เฉลี่ยรายวันในจังหวัดชลบุรี โดยพิจารณาได้จากรากของค่าคลาดเคลื่อนก่าลังสองเฉลี่ยจากข้อมูลสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของตัวแบบมีค่าน้อยที่สุด