Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการสังคม และเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการสังคม มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นการวิจัยเชิงสำรวจที่ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย เก็บข้อมูลกับนิสิต ชั้นปีที่1- 4 ของมหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 144 คน
ผลการวิจัยพบว่า นิสิตมีแรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงจากมากมาน้อย ได้แก่ แรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อจากด้านหลักสูตรการเรียนการสอน และด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้านสภาพแวดล้อมมหาวิทยาลัย ด้านการประกอบอาชีพ ด้านความสนใจ และเหตุผลส่วนตัว ด้านการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ตามลำดับ ในขณะที่แรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อจากด้านบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีค่าเฉลี่ย ซึ่งอยู่ในระดับน้อย ส่วนการทดสอบสมมติฐานนั้น ผลการวิจัยพบว่า การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อแรงจูงใจในการเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการสังคม พบว่านิสิตที่เข้าศึกษาต่อโดยระบบการสอบเข้าแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการเลือกเข้าศึกษาต่อในภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนนิสิตที่มีเพศ ภูมิลำเนา และผลการศึกษาแตกต่างกัน พบว่าแรงจูงใจในการเลือกเข้าศึกษาต่อในภาพรวมไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แนวทางการสร้างเสริมแรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการสังคม ตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ลำดับแรกที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดคือ มหาวิทยาลัยควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น หอสมุดและระบบสารสนเทศที่มีคุณภาพ รองลงมาคือ หลักสูตรควรมีรายวิชาที่เป็นจุดเด่น เช่น การลงพื้นที่ศึกษาชุมชน การทำงานจิตอาสา และการฝึกปฏิบัติงานทั้งในภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยควรสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงควรกำหนดค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตรให้เหมาะสม ซึ่งประเด็นเหล่านี้ได้รับการเห็นด้วยจากนิสิตมากกว่าร้อยละ 80