Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการฝึกการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการออกกำลังกายแกนกลางลำตัวกับการออกกำลังกายแกนกลางลำตัวปกติต่อความหนาตัวของกล้ามเนื้อ การทำงานของกล้ามเนื้อและการทรงตัวในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบไม่จำเพาะเจาะจง โดยอาสาสมัครที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง เรื้อรังแบบไม่จำเพาะเจาะจง จำนวน 38 คน ถูกลุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 19 คน ได้แก่ กลุ่มที่ฝึกด้วยการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และกลุ่มที่ฝึกการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ทำการฝึก 3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ประเมินผลด้วยการวัดการทำงานของกล้ามเนื้อ ความหนาตัวของ กล้ามเนื้อ การทรงตัว และภาวะทุพพลภาพ ก่อนการรักษาและหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และ 6 ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่ม กลุ่มที่ได้รับการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวหลังการติดตามผลที่ 4 สัปดาห์ และ 6 สัปดาห์ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของการทำงานกล้ามเนื้อ และ ความหนาตัวของกล้ามเนื้อขณะพัก และหดตัวของกล้ามเนื้อ Transversus abdominis, Multifidus และ Gluteus maximus การทรงตัวขณะยืนแบบ weight bearing และภาวะทุพพลภาพที่ลดลง (P-0.05) อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มที่ได้รับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวพบวความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของการทำงานกล้ามเนื้อ multifidus ที่การติดตามผลที่ 4 และ 6 สัปดาห์ และพบความหนาตัวของกล้ามเนื้อขณะพักของ Transversus abdominis, Multifidus และ Gluteus maximus และพบขณะหดตัวของกล้ามเนื้อ Transversus abdominis ที่การติดตามผล 4 สัปดาห์ นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม พบว่ากลุ่มที่ฝึกด้วยการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวมีค่าตัวแปรทุกตัวดีขึ้นแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมากกว่ากลุ่มที่ได้รับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเพียงอย่างเดียว การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการฝึกด้วยการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวมีประสิทธิภาพในการเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ความหนาตัวของกล้ามเนื้อ การ ทรงตัว และภาวะทุพพลภาพ หลังการออกกำลังกายเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ดังนั้นการจำกัดการไหลเวียนโลหิตร่วมกับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยนักกายภาพบำบัดในการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายในผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบไม่จำเพาะเจาะจงในอนาคตต่อไปได้