Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methodology) ผสานวิธีคิดและกระบวนการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เข้าด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคการปฏิบัติงานฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ นิสิตที่ลงทะเบียนฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จ านวน 162 คน คณาจารย์นิเทศจำนวน 7 คน และผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานที่นิสิตเข้ารับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 84 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ นิสิตคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ที่ฝึกงานในหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 5 คน และหน่วยงานภาคเอกชนและอื่น ๆ จำนวน 5 คน คณาจารย์นิเทศ จำนวน 5 คน และผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานที่นิสิตเข้ารับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 6 หน่วยงาน
ผลการวิเคราะห์เชิงปริมาณจากการประเมินประสิทธิภาพของระบบและกลไกการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
จากอาจารย์นิเทศ พบว่า ก่อน-ระหว่าง-หลังการฝึกงานอยู่ในระดับมาก จากการประเมินประสิทธิภาพ
ของนิสิตที่เข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 4 ด้านในภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ ในส่วน
ของผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานภาพรวมผลการประเมินประสิทธิภาพของนิสิตที่เข้าฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ 4 ด้านอยู่ในระดับมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การวิจัยครั้งนี้ไม่พบความแตกต่างของประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ของนิสิตภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ในหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชนและอื่น ๆ รวมถึงแหล่งฝึกงานในจังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่น ๆ แสดงว่าปัจจัยด้านหน่วยงานและสถานที่ในการฝึกประสบการณ์ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพทางรัฐศาสตร์ของนิสิตภาควิชารัฐศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา แต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิเคราะห์การ
สัมภาษณ์เชิงลึกจากนิสิต อาจารย์นิเทศ และผู้บริหารหรือผู้แทนแหล่งฝึกงานได้แสดงทัศนะที่สอดคล้องกัน ควรมีการแนะแนวการเติบโตของสายงานก่อนที่นิสิตจะเลือกวิชาเอกในชั้นปีที่ 2 รวมถึงการคัดเลือกสถานที่ฝึกงานจากเจ้าหน้าที่แหล่งฝึกงานแต่ละประเภท ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อให้นิสิตสามารถตัดสินใจและวางแผนการศึกษาต่อและฝึกประสบการณ์วิชาชีพในชั้นปีที่ 4 เทอม 2 อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ควรให้ความส าคัญในการพัฒนานิสิต ก่อนสำเร็จการศึกษาและพร้อมเติบโตในเส้นทางอาชีพ คือการพัฒนาบุคลิกภาพและภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี