Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาต้นทุนต่อหน่วยและความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตร เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารหลักสูตร คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาการวิจัยครั้งนี้ ซึ่งได้จากการรวบรวมเอกสารจากแหล่งข้อมูลตามแผนการผลิตบัณฑิต งบประมาณตามแผนการดำเนินงาน เพื่อใช้ในการคำนวณต้นทุน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา รายละเอียดข้อมูลที่ได้นำมาวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ด้านการเงินและงบประมาณ เพื่อนำมาวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วย ได้มาจากข้อมูลที่เผยแพร่บนหน้าเว็บไซด์คณะบริหารธุรกิจ จำนวนนิสิต ได้มาจากระบบงานทะเบียน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เผยแพร่สาธารณะผ่านเว็บไซต์กองทะเบียนและประมวลผลศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา ในส่วนสถิตินิสิต ทั้งนิสิตภาคปกติและนิสิตภาคพิเศษ ทุกสาขาวิชา และทุกระดับการศึกษา และแผนการรับนิสิตของหลักสูตร จากงานวิชาการคณะฯ และข้อมูลรายได้จากการศึกษา ประกอบด้วย ค่าบำรุงการศึกษา และค่าธรรมเนียมการศึกษาของแต่ละหลักสูตร ตามระเบียบมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าด้วยการเก็บเงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับนิสิตภาคปกติ และนิสิตภาคพิเศษ พ.ศ. ๒๕๕๒ และระเบียบมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าด้วยการเก็บเงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมการศึกษา แบบเหมาจ่าย ระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ พ.ศ. ๒๕๖๔ และระเบียบมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าด้วยการเก็บเงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมการศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรเหมาจ่าย คณะบริหารธุรกิจ พ.ศ. ๒๕๕๗ และที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ ผู้วิจัยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลการศึกษา พบว่า ต้นทุนรวมและต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละหลักสูตร ปี 2563-2566 ในระดับปริญญาตรี 185,974,034.93 บาท โดยต้นทุนค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรเฉลี่ยต่อหัว คนละ 133,602.04 บาท ขณะที่หลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษา แบ่งเป็น หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต ต้นทุนรวม 4,299,141.79 บาท เฉลี่ยต่อหัว คนละ 171,965.67 บาท หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิตต้นทุนรวม 5,824,852.51 บาท เฉลี่ยต่อหัว คนละ 194,161.75 บาท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ต้นทุนรวม 28,125,315.22 บาท เฉลี่ยต่อหัว คนละ 175,783.22 บาท ในส่วนความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตร พบว่า ในในระดับปริญญาตรี จำนวนนิสิต ณ จุดคุ้มทุน จะน้อยกว่า
แผนการรับนิสิตและตามจำนวนนิสิตข้าศึกษาจริง และเมื่อพิจารณาอัตราค่าธรรมเนียมต่อหลักสูตร
ต่อกับต้นทุนต่อหน่วยแล้ว จะเห็นได้ว่า อัตราค่าธรรมเนียมต่อหลักสูตรมากกว่าต้นทุนต่อหน่วยมีผล
ให้รายรับสูงกว่ารายจ่าย จึงถือว่าการบริหารหลักสูตรนั้นคุ้มทุน ในระดับบัณฑิตศึกษา ประกอบด้วย
ปริญญาโทและปริญญาเอก จำนวนนิสิต ณ จุดคุ้มทุน จะน้อยกว่าแผนการรับนิสิตและตามจำนวน
นิสิตข้าศึกษาจริง คือ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต และหลักสูตร
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต และเมื่อพิจารณาอัตราค่าธรรมเนียมต่อหลักสูตรต่อกับต้นทุนต่อหน่วยแล้ว จะ
เห็นได้ว่า อัตราค่าธรรมเนียมต่อหลักสูตรมากกว่าต้นทุนต่อหน่วยมีผลให้รายรับสูงกว่ารายจ่าย จึงถือ
ว่าการบริหารหลักสูตรนั้นคุ้มทุน และมี 1 หลักสูตร ที่รายรับน้อยกว่ากว่ารายจ่าย กล่าวคือ จำนวน
นิสิต ณ จุดคุ้มทุน จะน้อยกว่าแผนการรับนิสิตแต่มากกว่าตามจำนวนนิสิตข้าศึกษาจริง จึงถือว่าการ
บริหารหลักสูตรนั้นยังไม่คุ้มทุน