Abstract:
งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีตที่มีวัสดุซ่อมแซม โดยใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1 เป็นวัสดุประสานหลักในคอนกรีต อัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานเท่ากับ 0.50 และ 0.60 และอัตราส่วนเถ้าลอยต่อวัสดุประสานเท่ากับ 0.30 และ 0.50 บ่มตัวอย่างคอนกรีตในน้ำเป็นเวลา 7 วัน และ 28 วัน และทำการเคลือบผิวหน้าตัวอย่างคอนกรีตด้วย Crystal seal และ Xypex concentrate ยกเว้นที่ผสมด้วย Xypex admix C-1000NF จากนั้นนำตัวอย่างคอนกรีตไปแช่ในสารละลายดซเดียมคลอไรด์ที่มีความเข้มข้นเกลือคลอไรด์ 5.0% โดยน้ำหนัก เป็นเวลา 91 วัน 182 วัน และ 365 วัน เมื่อครบระยะเวลาการแช่จึงทำการทดสอบเพื่อหาค่าการแทรกซึมคลอไรด์ในคอนกรีต
จากการทดสอบพบว่า ความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของตัวอย่างคอนกรีตขึ้นอยู่กับอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสาน อัตราการเถ้าลอยต่อวัสดุประสาน ระยะเวลาการบ่ม และชนิดของวัสดุซ่อมแซมที่นำมาใช้ โดยเมื่ออัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานเพิ่มขึ้นจาก 0.50 เป็น 0.60 ความสามารถต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีตมีค่าลดลง และเมื่ออัตราส่วนการแทนที่วัสดุประสานด้วยเถ้าลอยเพิ่มขึ้นจาก 0.30 เป็น 0.50 ความสามารถต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคินกรีตมีค่าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เมื่อใช้ระยะเวลาบ่มคอนกรีตนานขึ้นจาก 7 วันเป็น 28 วัน ความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีตมีค่าเพิ่มขึ้นด้วย ดวามต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของตัวอย่างคอนกรีตที่เคลือบด้วย Crystal seal และ Xypex concentrate และที่ผสมด้วย Xypex admix C-100NF มีค่าสูงกว่าของตัวอย่างคอนกรีตที่ไม่ใช่วัสดุซ่อมแซม คอนกรีตที่ผสมวัสดุซ่อมแซม Xypex admix C-100NF มีความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์มากที่สุด