Abstract:
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด
8 ประการและพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรกับการบริหารจัดการ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด 8 ประการ และการบริหารจัดการโดย
ยึดหลักธรรมาภิบาล กับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง
พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรและการบริหารจัดการ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล กับอุปนิสัย
ของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด 8 ประการ ทั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ไนการศึกษา ได้แก่ บุคลากร
เทศบาลนครแหลมฉบังจำนวนทั้งสิ้น 29 คน สถิติที่ใช้ โดยแจกแจงจำนวนความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
เลขคณิต และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน หรือสหสัมพันธ์
เชิงเส้นตรง
ผลการศึกษา พบว่า สหสัมพันธ์ระหว่างอุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด 8 ประการ และ
พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรกับการบริหารจัดการ โดยหลักธรรมาภิบาลสหสัมพันธ์
ระหว่างอุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด 8 ประการ และการบริหารจัดการ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
กับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร และสหสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีและ
การบริหารจัดการ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลขององค์กร กับอุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูงสุด 8 ประการ
มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน โดยมีความสัมพันธ์ในระดับสูง เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
ระหว่างตัวแปรพยากรณ์กับตัวแปรเกณฑ์ มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ในระดับสูง
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ เทศบาลนครแหลมฉบัง ควรมุ่งเน้นพัฒนาปรับปรุงการบริหารงาน
ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะการสื่อสาร ควรเพิ่มเติมยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการองค์กร เกี่ยวกับ
เป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมแบบมีส่วนร่วม
การเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ และประชาชน มีส่วนร่วมในการตัดสินปัญหา และควรเปิดโอกาสให้
เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความรู้สึกที่ดี และยินดีให้ความร่วมมือในงานของ
เทศบาล และงานของประชาชน