Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มุ่งพัฒนารูปแบบแนวทางบริหารผู้มีศักยภาพสูง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา องค์ประกอบสำคัญของรูปแบบแนวทางบริหารและวิเคราะห์คุณลกัษณะที่มีอิทธิพลต่อผลดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้การวิจัยแบบผสมวิธีโดยกำหนดประชากรที่ใช้ศึกษาเป็นผู้บริหารสายงานธุรกิจของกลุ่มบริษัท มีองค์ประกอบเชิงประจักษ์ จำนวน 58 องค์ประกอบ แบ่งเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 9 ท่าน และสำรวจข้อมูล จำนวน 929 ตัวอย่าง นำผลที่ได้ไปวิจัยสนทนาเชิงกลุ่มผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 9 บริษัท นำผลใช้วิเคราะห์ยืนยันสมการเชิงโครงสร้าง ผลการวิจัยแนวทางบริหารผู้มีศักยภาพสูงมีองคป์ระกอบสำคัญเกี่ยวกับมุมมองการบริหาร กระบวนการบริหารประเมินผลการบริหาร และกระจายความเสี่ยงในการบริหาร มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อผลการดำเนินงานขององค์การธุรกิจรวมทั้งมีอิทธิพลแทรกซ้อนจากองค์ประกอบการประเมินศักยภาพสูงและองคป์ระกอบการประเมินผลการปฏิบัติงาน ทำให้โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในรูปแบบสมการเชิงโครงสร้างองค์ประกอบ พิจารณาค่าความสอดคล้องดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) เท่ากับ 0.995 และค่า RMASEA เท่ากับ 0.004 เป็นผลจากค่าสถิติไคสแควร์ต่อองศาอิสระมีค่า เท่ากับ .978 และค่าระดับนัยสำคัญทางสถิติเท่ากับ 0.495 มากกว่าที่กำหนดไว้ระดับ 0.05 จากผลการสัมภาษณ์ผู้บริหารส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่าร้อยละ 66 กับรูปแบบการบริหารผู้มีศักยภาพสูง เนื่องจากขาดความชัดเจนต่อมุมมองการยอมรับความสำเร็จที่มีต่อกระบวนการบริหารการผลักดันให้เกิดผลเชิงรูปธรรมในการประเมิน และกระจายความเสี่ยงรองรับการแข่งขันทั้งนี้กลุ่มผู้บริหารอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับแนวทางบริหารผู้มีศักยภาพสูงโดยวิธีการจำแนกกลุ่มกำหนดกระบวนการบริหาร ได้แก่ กลุ่มผู้มีผลการปฏิบัติงานดีกลุ่มผู้มีผลการปฏิบัติงานสูงกลุ่มผู้มีผลสัมฤทธิ์กลุ่มผู้มีศักยภาพสูงและประเมินระดับ ความสำคัญเป้าหมาย 5 ระดับ สรุปผลการวิจัยองค์ประกอบแนวทางบริหารผู้มีศักยภาพสูงมีอิทธิพลทางตรงต่อผลการดำเนินงานองค์การและมีอิทธิพลทางอ้อมผ่านการประเมินศักยภาพสูงและผลปฏิบัติงานสูงที่มีผลต่อการดำเนินงานธุรกิจ มีความจำเป็นต่อการพัฒนาศักยภาพมุ่งเน้นการขีดความสามารถและจัดการพฤติกรรมบุคลากรให้เหมาะสมเพื่อความสำเร็จในเป้าหมายการเพิ่มศักยภาพด้านเติบโตและผลตอบแทนการลงทุนของธุรกิจและต้องกำหนดแนวทางให้สอดคล้องกับการแยกกลุ่มผู้มีศักยภาพสูง