Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเชื่อมั่นของแรงงานข้ามชาติที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของแรงงานข้ามชาติที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน และเพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน การวิจัยครั้งนี้เป็นเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลกับแรงงานข้ามชาติที่ได้รับ อนุญาตทำงานในจังหวัดระนองที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 396 คน ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์ความแปรผัน ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง การวิเคราะห์ สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า ระดับความเชื่อมั่นของแรงงานข้ามชาติที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางโดยแรงงานข้ามชาติมีความเชื่อมั่นด้านความรับผิดชอบมากที่สุด อยู่ในระดับมากรองลงมา คือ ด้านนิติธรรม อยู่ในระดับปานกลาง ด้านความโปร่งใส อยู่ในระดับปานกลางและด้านคุณธรรม อยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ ในส่วนของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของแรงงานข้ามชาติที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน คือ ทัศนคติที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวนมีอิทธิพลมากที่สุด มีอิทธิพลเชิงบวก (Beta=0.44) รองลงมา คือ การรับรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน มีอิทธิพลเชิงบวก(Beta=0.27) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน มีอิทธิพลเชิงบวก(Beta=0.10) และประสบการณ์เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน มีอิทธิพลเชิงลบ (Beta=-0.09) โดยแรงงานข้ามชาติได้เสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมไทยชั้นสอบสวน คือ ควรทบทวนและแก้ไขข้อบกพร่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติให้ดีขึ้น เท่าเทียม และยุติธรรม โดยในข้อหาที่เกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติควรมีล่ามหรือ เจ้าหน้าที่ที่สามารถอธิบายให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจและปฏิบัติตามได้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ควรเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างซื่อตรงถูกต้องและตัดสินใจเป็นกลางควรปฏิบัติงานด้วยการให้เกียรติไม่ดูถูกกดขี่ใช้ความรุนแรง หรือยัดเยียดคดีและต้องอำนวยความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ในกรณีที่เกิดปัญหาฉุกเฉินขึ้น เจ้าหน้าที่ไม่ควรละเลยหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และควรมีการชี้แจงรายละเอียดของขั้นตอนการดำเนินงานอย่างเปิดเผยเป็นกลางและถูกต้อง