Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะการดำเนินธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันของผู้ประกอบการรับเหมางานซ่อมบำรุงและพัฒนากลยุทธ์การตลาดเชิงพลวัตสำหรับผู้ประกอบการรับเหมางานซ่อมบำรุงเพื่อความยั่งยืน โดยทำการศึกษากับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานรับเหมางานซ่อมบำรุง จำนวน 20 คน ประกอบด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมและเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มผู้จัดการทั่วไปของบริษัทผู้รับเหมาซ่อมบำรุงโดยการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยทำการวิจัยด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In-depth interview) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ลึกซึ้งในการสร้างองค์ความรู้ของประเด็นการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า แนวทางในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดเชิงพลวัตสำหรับผู้ประกอบการรับเหมางานซ่อมบำรุงเพื่อความยั่งยืน คือ (1) ความสามารถเชิงพลวัต (Dynamic capability) ประกอบด้วยความสามารถในการปรับตัวความสามารถด้านการดูดซับ และความสามารถด้านการสร้างนวัตกรรม (2) การประยุกต์ใช้ส่วนประสมทางการตลาด (Apply Marketing Mix) ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาคุณภาพการบริการการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กับการใช้แรงงานคน ด้านราคา มีความเหมาะสมต่อรองได้ด้านช่องทางการสื่อสารควรมีช่องทาง Social media ด้านการส่งเสริมการตลาดควรเพิ่มส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าประจำด้านบุคลากรควรพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะและความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้นและด้านกระบวนการให้มีความรวดเร็ว ชัดเจน เข้าใจง่าย (3) การทำ CSR (Corporate social responsibility) ประกอบด้วย In process คือ กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสิ่งแวดล้อมขององค์กร After process คือ กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กรโดยตรง As Process คือ องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยไม่มุ่งหวังผลกำไร (4) การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน (Innovation Marketing Strategy for Sustainability) ประกอบด้วย Solutions มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้วยปัญญาเป็นการแสวงหาหนทางที่ดีที่สุด Sacrifice มุ่งเน้นการเสียสละและการให้และการรับงานด้วยสิ่งที่มีคุณค่า Serviceability มุ่งเน้นการความยั่งยืน มุ่งเน้นการบริการการบำเพ็ญประโยชน์ Synergy การตลาดเพื่อความยั่งยืน มุ่งเน้นการสร้างพลังร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นโมเดล “DACI model”