การศึกษาการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของครูอัตราจ้างในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของครูอัตราจ้าง ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 โดยจำแนกตามเพศของครูอัตราจ้าง และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูอัตราจ้างในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 116 คน จากตารางกำหนดประเภทกลุ่มตัวอย่างของ เครจซี่ และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970, pp. 607-609) โดยทำการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดของโรงเรียน เป็นเกณฑ์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของครูอัตราจ้างในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง .35-.78 มีค่าความเชื่อมั่น .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบทางสถิติ (t-test) และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One -Way ANOVA) เมื่อผลการทดสอบ พบว่า มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผู้วิจัยทำการทดสอบรายคู่ภายหลังด้วยวิธีของเชฟเฟ (Scheff ’s Method) ผลการวิจัย 1. การเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของครูอัตราจ้าง ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ พฤติกรรม การคำนึงถึงผู้อื่น พฤติกรรมการให้ความร่วมมือ และพฤติกรรมการให้ความช่วยเหลือ 2. เปรียบเทียบการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของครูอัตราจ้างในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 จำแนกตามเพศ และขนาด ของโรงเรียน โดยรวมและรายด้านมีระดับการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เพศหญิงสูงกว่าเพศชาย