กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/589
ชื่อเรื่อง: การระบาดของหนอนตัวแบนปรสิตในหอยแมลงภู่จากแปลงเลี้ยงในจังหวัดชลบุรีและการกำจัดหนอนจากลูกหอยแบบพวงที่ขายเชิงพาณิชย์
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Epidermiology and treatment of parasitic flatworm infestation in marketed green mussel (Perna viridis Linnaeus) from sea-farms in Chon Buri Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ปภาศิริ บาร์เนท
คเชนทร เฉลิมวัฒน์
ชนวัฒน์ ตันติวรานุรักษ์
อาดูลย์ มีพูล
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิทยาศาสตร์
คำสำคัญ: สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
หนอนพยาธิ
หอยแมลงภู่ - - การเลี้ยง - - ชลบุรี
หอยแมลงภู่ - - การเลี้ยง - - สมุทรปราการ
หอยแมลงภู่ - - ปรสิต - - การควบคุม
หอยแมลงภู่ - - ปรสิต
วันที่เผยแพร่: 2554
สำนักพิมพ์: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: การสำรวจความชุกของหนอนตัวแบนปรสิตและการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู่ในแปลงเลี้ยงแบบไม้ไผ่ ตามชายฝั่งจังหวัดชลบุรีที่บางทราย อำเภอเมืองชลบุรี อ่างศิลา และที่คลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ และการเลี้ยงแบบแพแขวนพวงหอยที่ บางพระ ศรีราชา และแหลมท้าวเทวา ผลการศึกษาปี พ.ศ. 2553 พบว่า หนอนตัวแบนมีการระบาดจากการเลี่้ยงแบบแพมากกว่าแบบไม้ไผ่ ทั้งนี้หนอนจะอาศัยในหอยขนาดใหญ่ที่ยังไม่เก็บขายจากแพและจะแพร่กระจายไปยังพวงหอยรุ่นขนาดเล็ก โดยหอยตัวใหญ่พบหนอนในช่วงเดือนธันวาคม 2552 (ปริมาณหนอนประมาณ 50-400 ตัวต่อหอยแมลงภู่ 30 ตัว) และไปก่อการระบาดในหอยรุ่นเล็กในชาวงเดือนมกราคม 2553 (ปริมาณหนอนประมาณ 50-300 ตัวต่อหอยแมลงภู่ 30 ตัว) เดือนกุมภาพันธ์ (ปริมาณหนอนประมาณ 50-700 ตัวต่อหอยแมลงภู่ 30 ตัว) เดือนมีนาคม 2553 (ปริมาณหนอนประมาณ 200-1200 ตัวต่อหอยแมลงภู่ 30 ตัว) และสัมพันธ์กับความเค็มที่สูงและอุณหภูมิที่สูง การระบาดในเดือนเมษายนมีน้อยมาก และไม่พบการระบาดจนถึงจับขายในเดือนกันยายน การเจริญเติบโตของหอยแมลงภู่ดีที่สุดคือ ที่แหลมท้าวเทวาคล้ายกับที่ศรีราชาและบางพระ แต่มีการระบาดของหนอนรุนแรง โดยค่าดัชนีสุขภาพเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อหอยแมลงภู่ต่อน้ำหนักหอย ทั้งหมดมีค่าสูงกว่า 25.0% แต่ที่คลองด่าน และอ่างศิลา และหอยมีการเจริญเติบโตไม่ดี คือ ที่บางทรายและอำเภอเมืองชลบุรี โดยค่าดัชนีสุขภาพเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อหอยแมลงภู่ต่อน้ำหนักหอยทั้งหมดมีค่าต่ำกว่า 25.0% พบอัตราการตายสูงสุดของหอยตัวเป็นและตัวตายในแต่ละพวงหอยในช่วงเดือนมีนาคม ถึงมิถุนายน 2553 มีค่าการต่าย 0% ไปจนถึง 23.0% และหอยแมลงภู่มีอัตราการตายสุงมากในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2553 ประมาณ 14.9-60.5% ผลการตรวจค่าคุณภาพน้ำทะเลมีค่าละลายออกซิเจน ค่าความเป้นกรดเป้นด่าง อถณหภูมิน้ำ ทุกค่าส่วนใหญ่ได้มาตรฐานการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู่ทั้ง 7 สถานี การศึกษาในครั้งนี้บ่งชี้ควรหาแนวทางแก้ไขในบางช่วงเวลาต่อการระบาดของหนอนตัวแบนในฟาร์มหอยแมลงภู่เลี้ยงแบบแขวน ผลการศึกษาปี พ.ศ. 2554 พบว่า หนอนตัวแบนมีการระบาดน้อยจากการเลี้ยงทั้งแบบแพแขวนและแบบไม้ไผ่ ซึ่งน้อยกว่าปี พ.ศ. 2553 ความชุกของหนอนตัวแบนพบได้ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมเท่านั้น โดยปริมาณหนอนตัวแบน โดยสถานีอ่างศิลาพบจำนวนหนอนตัวแบนในหอยแมลงภู่มากที่สุดคือ 57+- 10 ตัว ต่อหอย 30 ตัว และ 124 +- 24 ตัว ตามลำดับ รองลงมาคือที่ สถานีบางพระพบจำนวนหนอนตัวแบนในหอยแมลงภู่ 20 ต่อหอย 30 ตัว ในเดือนเมษายนเท่านั้น และสถานีทั้ง 6 แห่งพบจำนวนหนอนตัวแบนในหอยแมลงภู่ต่ำกว่า 20 ต่อหอย 30 ตัว หอยแมลงภู่ในปีพ.ศ. 2554 มีการเจริญเติบโตดีกว่าปีพ.ศ. 2553 เพราะสามารถหาค่าดัชนีสุขภาพเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อหอยแมลงภู่ต่อน้ำหนักหอยทั้งหมดมีค่าสูงกว่า 25.0% เกือบทุกสถานี ตั้งแต่เดือนมกราคม และอัตราการตายของหอยเฉลี่ยประมาณ 5-10% ทั้งการเลี่ยงแบบพวงและไม้ไผ่ ผลการทดลองการกำจัดหนอนตัวแบนในพวงหอยขนาด 2-3 เซ็นติเมตร ด้วยความเค็มที่ต่ำลงแขวนพวงหอยเลี้ยงในถังไฟเบอร์ที่มีน้ำความเค็มคือที่ 5, 10 และ 15 ppt และเปรียบเทียบกับชุดควบคุมที่ 30 ยยะ พบว่า ระดับความเค็มที่ 5 และ 10 ppt สามารถทำให้หนอนตัวมีการบวมและแตก ในที่สุดจะตายภายในเวลาที่สังเกตที่ 6, 12, 24 และ 48 ชั่วโมง แต่หอยแมลงภู่จะไม่สามารถทนความเค็มที่ต่ำในช่วงนี้ได้ก็สามารถพบการตายได้เหมือนกัน ส่วนที่เค็มที่ 15 ppt ทำให้หนอนมีปริมาณลดลง เหลือ 20-30 ตัวต่อหอย 10 ตัว เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุม 30 ppt ที่มีหนอนเฉลี่ย 100-150 ตัวต่อหอย 10 ตัว ตลอดการสังเกตภายใน 48 ชั่วโมง วงจรชีวิตของหนอนตัวแบนจากแม่หนอนที่สามารถให้ไข่หนอนในท้องที่ 52 +- 4 ตัว และไข่ 1 ใบ สามารถแบ่งตัวให้ตัวอ่อน 2-3 ตัว ไข่หนอนไม่สามารถเคลื่อนที่ ส่วนใหญ่จะติดที่เหงือกหอยแมลงภู่ จนกระทั่งเป็นตัวอ่อนที่ปรากฏขนรอบตัวจึงเริ่มว่ายน้ำ และเจริญเป้นตัวเต้มวัยและเป็นตัวแก่ที่มีไข่อยู่ในท้อง จะใช้ระยะเวลาช่วง 10-20 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเล ผลสรุปการศึกษาการระบาดของหนอนตัวแบนในหอยแมลงภุ่ตามแนวชายฝั่งทะเล จังหวัดชลบุรี ทั้งแบบแพและไม้ไผ่ในช่วง 2 ปี ทำให้ทราบว่าปัจจัยหลักในการระบาดของหนอนตัวแบนจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีของการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู่ การระบาดจะรุนแรงจะมากในปีที่ฤดูกาลมีช่วงแล้งนาน ฝนตกช้า เพราะทำให้ความเค็มสูงกว่า 27 ppt และเมื่อร่วมกับอุณหภูมิน้ำทะลที่สูงถึง 30 'C ขึ้นไปความรู้ที่สรุปได้อีกคือ ความเค้มและอุณหภูมิน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงในทางลดลงทำให้หนอนตัวแบนจะว่ายน้ำออกจากหอยแมลงภู่ และคาดว่าการระบาดของหนอนตัวแบนในหอยแมลงภู่ไม่ได้เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี
URI: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/589
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
2569-148.pdf29.43 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น