กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/549
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorนันท์ชญา มหาขันธ์
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T08:51:56Z
dc.date.available2019-03-25T08:51:56Z
dc.date.issued2539
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/549
dc.description.abstractการสักเป็นเรื่องที่มีความลึกลับและเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมาเป็นเวลาช้านาน ทั้งนี้มิใช่พียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นหากเป็นไปเช่นนี้ทั่วโลก จุดมุ่งหมายวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาถึงการศึกของไทยและญี่ปุ่น ทั้งในด้านประวัติความเป็นมา ขนบประเพณี ความเชื่อ รูปแบบของการสัก การปฎิบัติในการสักรวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการสัก ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เก็บรวบรวมมาจากเอกสารทั้งของไทยและต่างประเทศ รูปรอยของสัก ตลอดจนการสำรวจ การวิเคราะห์ข้อมูลกระทำด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ความเชื่อและค่านิยมในการสักของไทยมีความแตกต่างไปจากการสักของประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความแตกต่างไปจากการสักประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทยการสักกระทำต่อเนื่องจากความเชื่อถือในเรื่องโชครางของขลัง เช่น อำนาจลึกลับมหัศจรรย์ต่าง ๆ ความขลัง โชคลาภ เมตตามหานิยม ความมีอายุยืน ความมีเสน่ห์ ความแคล้วคลาดจากภยันตราย ความมีหนังเหนี่ยวที่ศาสตราวุธไม่สามารถทำอันตรายได้ เป็นต้น รูปรอยของการสักก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งกระทำเพื่อความขลังเช่นกันรูปรอยสักเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นหัวใจของคาถาที่นำมาเรียงร้อยเข้ากันเป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่เรียกว่า ยันต์ หรือ รูปศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการสัก เพื่อความขลัง รอยสักประเภทอื่น ได้แก่ เทวดา สัตว์และพืช ช่างสักบางคนอาจผสมน้ำมันหรือสมุนไพรเข้าไปในหมึก เพื่อให้รอยสักมีความครั้งยิ่งขึ้นด้วยการสักของญี่ปุ่น คำว่า การสักเป็นศิลปะที่เรียกว่า อิเรซึมิ โดยศัพท์หมายความว่า การสอดหมึกหรือถ้าเป็นคำที่เก่ากว่านั้น ก็คือคำว่า โฮริโมะโน หมายถึงสิ่งที่ถูกจำกัด ได้แก่ ผิวหนังของมนุษย์ที่ถูกจำหลักรูปรอยลงไป ในญี่ปุ่นการสักเป็นที่รู้จักกันมาตั้งสมัยโบราณแล้ว หากมิใช่การสักในรูปแบบศิลปะ แต่เป็นการจาลึกโทษผู้กระทำความผิด ด้วยการสักบนใบหน้า ความมุ่มหมายในการสักของบุคคล มีแตกต่างกันไป เช่น ความมีโชคลาภ เพื่อความปลอดจากสิ่งชั่วร้ายและความเจ็บไข้ได้ด้วยเพื่อเป็นการกำหนดตำแหน่งหรือสถานะภาพ และเพื่อนเป็นการประดับตกแต่งร่างกายตามความพอใจ หรือกระทำเผเพื่อกระประชดตัวเอง ในบรรดารอยสักทั้งชนิดเต็มตัวและชนิดครึ่งตัวของญี่ปุ่น รูปรอยที่สักส่วนใหญ่ จะเป็นพวกสัตว์ในเทวนิยาย ตัวเองในนวนิยาย เทพเจ้า ดอกไม้ รวมทั้งรูปสิ่งของต่าง ๆ เครื่องมือที่ใช้สัก ช่างสักญี่ปุ่นใช้เข็มสักแบบดั่งเดิมมาเป็นเวลาช้านาน ปัจจุบันใช้เครื่องสักไฟฟ้า การสักแบบญี่ปุ่น จัดว่าเป็นศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใด และเป็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้นิยมการสักทั่วโลกth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectการสัก - - ญี่ปุ่น - - การศึกษาth_TH
dc.subjectการสัก - - ไทย - - การศึกษาth_TH
dc.subjectการสักth_TH
dc.subjectชาติพันธุ์วิทยาth_TH
dc.subjectไทย - - ความเป็นอยู่และประเพณี.th_TH
dc.subjectสาขาสังคมวิทยาth_TH
dc.titleการศึกษาศิลปะการสักของไทยและญี่ปุ่นth_TH
dc.title.alternativeA study of Thai and Japanese tattooingen
dc.typeResearch
dc.year2539
dc.description.abstractalternativeTattooing has long been interested and mysterious matter not only in Thailand but all over the glove . The purpose of this research was to study of Thai and Japanese tattooing : hislory, beliver, customs, designs, practices and instruments. Data were gathered from documents, artifacts and surveys. The data were analysed by mean of content analysis. Results of this study show that belief and value of tattooing in Thailand may be different from those in other countries especially from Japan. In Thailand tattooing was for superstitious purpose such as miraculous powers, efficacy, good fortune, popularity, longevity, glamour, survival, unbeatable tough skin, could not be wounded by weapons. Tattooing desing for magical purpose was another matters. They were abeviated sacred words Yunta or sacred figures that were specific to the tattooing. The other desing were gods, animals, plants and objects. Sometattooist put specific king of essential oil or herbal medicine into the color ink to make the tsttoo miraculously powerful. In japan, tattoos were the art of the Ire-zumi, literally meaning the 'insertion of ink' or more classically and eleglantly hori-mono, meaning someting which is 'carced' 'sculpted' or 'engraved' . Tattooing was know in ancient Japan, but it was very far from an art form then. Tattoo was to be used to stigmatise wrongdoers by means of facial tatoo. The reasons for a person to choose to be tattooed were various: toentice good forture or repel sickness and evil; tp vprove and display rank or status, to decorate oneself in an act of vanity or out of self-loce. Among the Japanese style full-body or half-body tattoos the designs were mythological beasts, novel heroes, gods plants and objects. As for the tattooing instruments Japanese tattooist have long used tradition styled needles, up to now they prefered modern styled electronics tattooing machine. The Japanese styled tattoo is unique and a world-renowned among the tattoo fanaticsen
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
ไม่มีแฟ้มใดที่สัมพันธ์กับรายการข้อมูลนี้


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น