กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/5122
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorพณณกร ทองหลิ้ม
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะโลจิสติกส์th
dc.date.accessioned2023-02-13T03:49:56Z
dc.date.available2023-02-13T03:49:56Z
dc.date.issued2565
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/5122
dc.description.abstractวิสาหกิจชุมชนบ้านคลองน้ำเค็มดำเนินธุรกิจด้วยการแปรรูปมังคุดเพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน ด้วยวิสาหกิจชุมซนยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจจึงทำให้การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ ศึกษาการดำเนินงานขอ วิสาหกิจชุมชนบ้านคลองน้ำเค็มในปัจจุบัน วิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และกำหนดแนวทางในการยกระดับธุรกิจให้กับวิสาหกิจชุมชนบ้านคลองน้ำเค็ม ในการศึกษาได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง การเก็บรวมรวมข้อมูลปฐมภูมิด้วยการสัมภาษณ์ประธานวิสาหกิจ ชุมชนและสมาชิกวสาหกิจชุมชนรวมทั้งหมด ๙ คน ผู้เชี่ยวชาญที่เคยมีประสบกรณ์ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน จำนวน ๓ คน และ แจกแบบสอบถามผู้บริโภคที่เคยซื้อสินค้าเกษตรแปรรูป จำนวน ๑๐๐ คน จากนั้น นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาทำการวิเคราะห์ด้วย SWOT Analysis และ TOWS Matix สำหรับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญนำมาวิเคราะห์ด้วย 5' Forces Model และ Diamond Model และข้อมูลที่ได้จากการจากกลุ่มผู้บริโภคนำมาวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multi Linear Regresion) ผลการศึกษาพบว่า วิสาหกิจชุมชนมองว่าตนเองว่ามีจุดแข็งด้านการเข้าถึงวัตถุดิบและมีจุดอ่อนด้านแรงงานและเงินทุน ทั้งนี้ มีโอกาสต้านอำนาจการต่อรองกับผู้จัดหาวัตถุดิบและอุปสรรคด้าน อำนาจการต่อรองกับลูกค้า เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่อด้วยเนวคิดการจัดการโซ่อุปทานและแบบจำลองอ้างอิงการดำเนินงานในโซ่อุปทาน กลับพบว่า การดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนยังขาดการวางแผนและระบบการทำงานที่ชัดเจนทั้งในด้านการจัดการคำสั่งซื้อวัตถุดิบ การผลิต และโดยเฉพาะความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า เป้าหมายที่จะนำมาสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจากการศึกษา พฤติกรรมผู้บริโภคพบว่าปัจจัยด้านผสิตภัณฑ์ที่ผลต่อระดับการตัตสินใจซื้อสินค้าเกษตรแปรรูปมากที่สุด ดังนั้น เพื่อให้ได้แนวทางในการยกระดับธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนที่ชัดเจนผู้วิจัยได้วิเคราะห์ความสามารถในแข่งของวิสาหกิจชุมชนจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ พบว่า วิสาหกิจชุมซนมีความความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านอำนาจการต่อรองของผู้จัดหาวัตถุดิบและได้รับผลกระทบด้านบวกจากปัจจัยเงื่อนไขการ ผลิตโดยเฉพาะวัตถุดิบและยังมีโอกาสในการขยายตลาดของผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้ ซึ่งแนวทางที่สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นคือกรอบแนวคิดของผู้นำในการกำหนดทิศทางและเป้าหมายของธุรกิจ ดังนั้น หากวิสาหกิจชุมชนกำหนดทิศทางไว้เพียงความสำเร็จในตลาดในประเทศ วิสาหกิจชุมชนต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศเพื่อนำมาเป็นแนวทางสำหรับออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการและสร้างมาตรฐานการผลิตให้เป็นไปตามที่กำหนด อย่างไรก็ตาม หากวิสาหกิจชุมชนต้องการประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำมาตรฐานระดับประเทศไปต่อยอดความสำเร็จและแสวงหาตลาดในต่างประเทศ รวมทั้ง การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดต่งประเทศและกฏระเบียบในการนำเข้าส่งออกของประเทศที่ต้องการส่งออกให้เข้าใจและปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ในอนาคตth_TH
dc.description.sponsorshipโครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ งานวิจัยพัฒนาและถ่ายทอด เทคโนโลยี จากกองทุนเพื่อการวิจัย เงินอุดหนุนทุนการวิจัย คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา ประจ้าปี พ.ศ. 2563th_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectธุรกิจth_TH
dc.subjectอุตสาหกรรมการส่งออกth_TH
dc.titleแนวทางการยกระดับธุรกิจเพื่อการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปของวิสาหกิจ ชุมชนคลองน้ำเค็ม จังหวัดจันทบุรีth_TH
dc.title.alternativeEnhancement business policy in order to export processed agricultural product of Klong Nam Khem Community Enterprise in Chanthaburi Provinceen
dc.author.emailPannakorn_ton@hotmail.comen
dc.year2565th_TH
dc.description.abstractalternativeBan Khlong Nam Khem Community Enterprise operates its business by processing mangosteen to create products that can build a reputation for the community. Due to the lack of knowledge and understanding of the community enterprises in business operations, the current business operations are not as successful as they should be. The objective of this research was to study the current operation of Ban Khlong Nam Khem Community Enterprise. Analyze the competitiveness in the industry and set guidelines for upgrading the business for Ban Khlong Nam Khem Community Enterprise. In the study, data was gathered from relevant documents and research papers. Including the collection of primary care data by interviewing the chairman of the community enterprise and a total of 7 members of the community enterprise, 3 experts who had experience with community enterprises. In addition, a questionnaire was distributed to 100 consumers who had purchased processed agricultural products. Data obtained from interviews with community enterprises were analyzed using SWOT Analysis and TOWS Matrix. The data obtained from the interviews with experts were analyzed with 5' Forces Model and Diamond Model and data obtained from consumer groups were analyzed by Multi Linear Regression analysis. The results of the study found that community enterprises analyze themselves as having strengths in access to raw materials and weaknesses in labor and capital There are opportunities for bargaining power of suppliers and barriers to bargaining power of customers. Continuously, Data analysis by supply chain management concepts and operational reference models in supply chains was found that the operation of community enterprises still lacks a clear planning and working system in terms of managing raw material orders, production and especially understanding the behavior of target segment that lead to the design of products that are suitable for the needs of customers.This corresponds to the study of consumer behavior, found that the product factors affecting the decision level of the purchase of processed agricultural products the most. Therefore, in order to obtain clear guidelines for upgrading the business of community enterprises. It was found that community enterprises had a competitive advantage in the bargaining power of raw material suppliers and were positively affected by production conditions, especially material. And there is also an opportunity to expand the market of theproduct in the future. An important way to help a business achieve higher levels is Leadership’s mindset and business goals. If community enterprises only set a direction for success in the domestic market Community enterprises must focus on the study of consumer behavior in the country in order to use it as a guideline for designing products to meet their needs and establishing production standards accordingly. However, if community enterprises want to succeed in the international market It is imperative to apply national standards to further success and seek global markets. Including studying and understanding the behavior of consumers in the international market and the import-export regulations of the countries that want to export to understand and strictly follow the regulations in order to maintain business standards in the future.en
dc.keywordอุตสาหกรรมการส่งออกth_TH
dc.keywordธุรกิจth_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2566_045.pdf4.56 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น