กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4228
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorรวิพัชร์ นิลพัฒน์
dc.contributor.authorดุสิต ขาวเหลือง
dc.contributor.authorสิราวรรณ จรัสรวีวัฒน์
dc.contributor.authorมานพ แจ่มกระจ่าง
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
dc.date.accessioned2021-06-22T07:47:27Z
dc.date.available2021-06-22T07:47:27Z
dc.date.issued2563
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4228
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การดูแลรักษาบ้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ E1/ E2 เท่ากับ 80/ 80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องการดูแลรักษาบ้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการสอน และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องการดูแลรักษาบ้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) ชุดการสอน 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอุทัย จำนวน 40 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า 1. ชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การดูแลรักษาบ้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/ E2 เท่ากับ 81.94/ 80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การดูแลรักษาบ้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 (ค่าเฉลี่ย = 4.17, SD = 0.91)th_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectการจัดการบ้าน -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศีกษา)th_TH
dc.subjectกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศีกษา)th_TH
dc.subjectการสอนด้วยสื่อth_TH
dc.subjectสาขาการศึกษาth_TH
dc.titleผลการใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การดูแลรักษาบ้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1th_TH
dc.title.alternativeEffects of occupations and technology instructional package on units of use materials and equipments suitable to the home care of mathayomsuksa 1 studentsen
dc.typeArticleth_TH
dc.issue2th_TH
dc.volume15th_TH
dc.year2563th_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were 1) to find the efficiency of the occupations and technology instructional package on “unit of use materials and equipments suitable to the home care” of Mathayomsuksa one students acconding to the standand criterion of 80/80, 2) to compare learning achievement of the occupations and technology instructional package on “unit of use materials and equipments suitable to the home care” of Mathayomsuksa one students pretest and posttest, and 3) to study the students’ satisfaction toward to the occupations and technology instructional package on “unit of use materials and equipments suitable to the home care” of Mathayomsuksa one students. The instruments in the study comprised of 1) instructional package, 2) Learning plan, 3) occupations and technology learning achievement test, and 4) satisfaction questionnaire. The sample group in this study were 40 Mathayomsuksa one students at Uthai School, they were selected by cluster random sampling. The statistics that used for data analysis were percentage, mean, standard deviation and dependent t-testen
dc.journalวารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคมth_TH
dc.page279-290.th_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:บทความวิชาการ (Journal Articles)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
edusoc15n2p279-290.pdf708.9 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น