กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4226
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorสิรวิชญ์ บำรุงพงษ์
dc.contributor.authorดุสิต ขาวเหลือง
dc.contributor.authorรุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
dc.date.accessioned2021-06-22T06:55:32Z
dc.date.available2021-06-22T06:55:32Z
dc.date.issued2563
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4226
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองจอก กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม Cluster Random Sampling เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน ทั้งหมด 7 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง มีประสิทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ (E1/E2) เท่ากับ 86.03 และ 84.85 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดย โครงงาน เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ค่าดัชนีประสิทธิผลหลังเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.7292 หรือ 72.92% 4. ระดับความพึงพอใจ ของนักเรียนที่เรียนในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.53, SD = 0.57)th_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectการสอนแบบโครงงานth_TH
dc.subjectกิจกรรมการเรียนการสอนth_TH
dc.subjectกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี -- กิจกรรมการเรียนการสอนth_TH
dc.subjectอาหารท้องถิ่นth_TH
dc.subjectสาขาการศึกษาth_TH
dc.titleการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง อาหารพื้นบ้านจังหวัดระยอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6th_TH
dc.title.alternativeProject-based learning activity in occupation and technology learning area on traditional food in Rayong for grade 6 studentsen
dc.typeArticleth_TH
dc.issue2th_TH
dc.volume15th_TH
dc.year2563th_TH
dc.description.abstractalternativeThe objective of this study were : 1) to study the efficiency of Project – Based Leaning Area, title on Traditional Food in Rayong for Grade 6 students which have met the standard criterion set at 80/80; 2) to compare the students academic achievement Pre - test and Post - test: 3) to study the effectiveness index of Project –Based Leaning Activity, and 4) to study the students satisfaction toward Project – Based Leaning Activity lesson plans. The sample consisted of 35 students who were randomed by cluster sampling. The instruments were 7 Project – Based Learning activity lesson plans, achievement tests, and questionnaire. The collected data were analyzed by percentage, arithmetic mean, standard deviation and t – test The research findings were summerired as follows : The efficiency of Project – Based Learning activity lesson plans in Occupation and Technology Learning Area, title on Traditional Food in Rayong for Grade 6 students was 86.03/84.85 which was higher than the standard criterion set at 80/80. In comparative study students academic achievement. The average score of posttest was significantly higher than that of the Pre – test at .05 level of significance. The effectiveness index of Project – Based Learning Activity lesson plans in Occupation and Technology learning Area on Traditional Food in Rayong for Grade 6 students was 0.7292 or 72.92% The students satisfaction were at highest level ( 𝑥 = 4.53, SD = 0.57)en
dc.journalวารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคมth_TH
dc.page315-326.th_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:บทความวิชาการ (Journal Articles)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
edusoc15n2p315-326.pdf749.9 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น