กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4067
ชื่อเรื่อง: การให้บริการเชิงนิเวศของเอคไคโนเดิร์มในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเลหมู่เกาะแสมสารจังหวัดชลบุรี (สนองพระราชดำริในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี)
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Ecological services of echinoderms in the Marine Plant Genetic Conservation Area, Mo Ko Samaesarn, Chon Buri province (Under the Plant Genetic Conservation Project Under the Royal Initiative of Her Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn)
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สุเมตต์ ปุจฉาการ
มหาวิทยาลัยบูรพา. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
คำสำคัญ: พืชทะเล
การอนุรักษ์พืช
เอคไคโนเดิร์ม
สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
วันที่เผยแพร่: 2561
สำนักพิมพ์: สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: ทำการสำรวจเก็บรวบรวมข้อมูลความหลากหลายทางชนิดและประชาคมของเอคไคโนเดิร์มในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเล หมู่เกาะแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยกาหนดจุดสำรวจและเก็บข้อมูลตามพื้นที่เกาะที่คัดเลือกเป็นตัวแทนจำนวน 4 สถานี ได้แก่ 1) สถานีเกาะปลาหมึก 2) สถานีหาดเตย เกาะแสมสารทิศตะวันตก 3) หาดเทียน เกาะแสมสารทิศตะวันออก และ 4) สถานีเกาะจาน ทิศเหนือ ดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม 2560 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2560 รวม 6 ครั้ง ได้ผลการศึกษาคือ พบเอคไคโนเดิร์มในแนวสำรวจ 9 ชนิดจาก 5 วงศ์ ได้แก่ กลุ่มดาวทะเล 1 ชนิด กลุ่มเม่นทะเล 3 ชนิดและกลุ่มปลิงทะเล 5 ชนิด เอคไคโนเดิร์มมีความชุกชุมหนาแน่นเฉลี่ยในรอบปี 21.36 ตัวต่อ 100 ตารางเมตร เม่นดำหนามยาว Diadema setosum เป็นเอคไคโนเดิร์มที่มีความชุกชุมหนาแน่นมากที่สุด พบเอคไคโนเดิร์ม 2 ชนิดที่มีแบบแผนการกระจายแบบสม่ำเสมอ 1 ชนิดมีการแพร่กระจายแบบสุ่ม และ 6 ชนิดที่มีแบบแผนการกระจายแบบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นกระจุก ความมากชนิดของเอคไคโนเดิร์มในพื้นที่ศึกษามีค่าเฉลี่ยในรอบปีเท่ากับ 4.25 ชนิด ดัชนีความสม่ำเสมอมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.189 ค่าดัชนีความหลากหลายทางชีวภาพมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.181 ค่าดัชนีทั้งสองค่านี้มีค่าน้อยมาก แสดงให้เห็นว่าเอคไคโนเดิร์มในพื้นที่ศึกษามีโอกาสพบน้อยมากรวมทั้งความหลากหลายทางชนิดน้อยและพบเอคไคโนเดิร์มชนิดใดชนิดหนึ่งคือ เม่นดำหนามยาวเป็นจำนวนมากกว่าเอคไคโนเดิร์มชนิดอื่น ๆ สูงมาก เอคไคโนเดิร์มอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นดินทราย กินอินทรียวัตถุในดินตะกอนพื้นทะเลเป็นอาหาร โดยมีการกินอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน องค์ประกอบภายในทางเดินอาหารของเม่นดำหนามยาวประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ดินตะกอนพื้นทะเล (ทราย เศษซากปะการัง ซากของเปลือกหอย) 99.76% รองลงมาเป็นกลุ่มพืชทะเล ได้แก่ สาหร่ายทะเลต่าง ๆ 0.22% และซากสัตว์ทะเลซึ่งส่วนมากเป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มต่าง ๆ 0.01% ในขณะที่ปลิงดำแข็ง Holothuria atra และปลิงดานิ่ม Holothuria leucospilota มีองค์ประกอบภายในทางเดินอาหารซึ่งประกอบด้วยดินตะกอนพื้นทะเล (ทราย เศษซากปะการัง ซากของเปลือกหอย) 100% ปริมาณสารอินทรีย์ในตัวอย่างดินตะกอนหมู่เกาะแสมสารในปี 2560 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.63% ปริมาณสารอินทรีย์ในทางเดินอาหารและมูลของของเม่นดำหนามยาวมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.40% และ 1.68% ตามลาดับ ส่วนปริมาณสารอินทรีย์ในทางเดินอาหารและมูลของปลิงดำแข็งและปลิงดำนิ่มมีค่าใกล้เคียงกันคือ 1.78%, 0.75%, 1.35% และ 0.70% ตามลาดับ เอคไคโนเดิร์มในบริเวณหมู่เกาะแสมสารมีบทบาทของการเป็นสัตว์ที่ช่วยในการหมุนเวียนสารอินทรีย์ในดินตะกอนซึ่งอาจอยู่ในรูปของการรวบรวมสารอินทรีย์โมเลกุลใหญ่เข้าสู่การขบวนการย่อยและดูดซึมแล้วปรับเปลี่ยนให้สารอินทรีย์โมเลกุลขนาดเล็กลงเหมาะสมกับสิ่งมีชีวิตหน้าดินอื่น ๆ ได้ ใช้ประโยชน์ต่อไป ลักษณะเนื้อดินตะกอนพื้นทะเลเป็นดินทราย ประกอบด้วยสัดส่วนของดินทราย ดินโคลนและดินร่วนเท่ากับ 91.84%, 5.95% และ2.21% ตามลาดับคุณภาพน้ำทะเลในบริเวณพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเล หมู่เกาะแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 1 คุณภาพน้ำทะเลเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
รายละเอียด: โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (อพ.สธ.) (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
URI: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4067
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2564_250.pdf3.4 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น