กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3997
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorภรณี ศรีปรีชาศักดิ์
dc.contributor.authorอนันต์ อธิพรชัย
dc.contributor.authorวงศกร พงศ์โสภิตานันท์
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิทยาศาสตร์
dc.date.accessioned2020-12-29T07:02:13Z
dc.date.available2020-12-29T07:02:13Z
dc.date.issued2562
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3997
dc.descriptionโครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ (เงินอุดหนุนรัฐบาล) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562th_TH
dc.description.abstractแอคติโนแบคทีเรียเอนโดไฟท์จานวน 59 ไอโซเลท ที่คัดแยกได้จากพืชวงศ์ Rutaceae จัดอยู่ในสกุล Actinomycetospora, Amycolatopsis, Marmoricola, Micromonospora, Nocardia และ Streptomyces จากการวิเคราะห์ลำดับเบสและความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของยีน 16S rRNA พบว่า มีแอคติโนแบคทีเรีย จำนวน 4 ไอโซเลท ที่น่าจะเป็นแอคติโนแบคทีเรียสปีชีส์ใหม่ในสกุล Nocardia ได้แก่ ไอโซเลท R6R-6, R7R-8, R15R-2 และ R16R-3 การคัดกรองหาแอคติโนแบคทีเรียเอนโดไฟท์ที่ผลิตสารปฏิชีวนะในการยับยั้งเชื้อก่อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่า Streptomyces sp. R3R-6 ซึ่งแยกได้จากรากของมะกรูดเป็นสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการผลิตสารปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียแกรมบวก B. subtilis ATCC 6633, M. luteus ATCC 9341 และ S. aureus ATCC 25923 สารปฏิชีวนะที่ผลิตจาก Streptomyces sp. R3R-6 คือ actinomycin D สารมีประสิทธิภาพสูงในการต้านแบคทีเรีย แกรมบวกเทียบเท่ายาปฏิชีวนะ chloramphenicol ดังนั้นแอคติโนแบคทีเรียเอนโดไฟท์ที่คัดแยกได้จากพืชวงศ์ Rutaceae จึงเป็นแหล่งของจุลินทรีย์ที่มีศักยภาพในการผลิตสารปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อก่อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังได้ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตสารสารปฏิชีวนะจาก Streptomyces sp. R3R-6 พบว่า ระยะเวลาและปริมาณหัวเชื้อเริ่มต้นที่เหมาะสมในการผลิตสารปฏิชีวนะ คือ 7 วัน และร้อยละ 1 โดยปริมาตร ตามลำดับ และองค์ประกอบของอาหารเลี้ยงเชื้อที่เหมาะสม คือ น้าตาลซูโครส (10 กรัมต่อลิตร) และสารสกัดมอลต์ (20 กรัมต่อลิตร)th_TH
dc.description.sponsorshipสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectโรคเบาหวานth_TH
dc.subjectสารปฏิชีวนะth_TH
dc.subjectผู้ป่วยเบาหวานth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์th_TH
dc.titleการค้นหาแอคติโนแบคทีเรียเอนโดไฟท์ที่ผลิตสารปฏิชีวนะในการยับยั้งเชื้อก่อโรค ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในผู้ป่วยโรคเบาหวานth_TH
dc.title.alternativeDiscovery of endophytic actinobacteria producing antibiotic agents against pathogenic microorganisms causing diabetes mellitus patient’s infectionen
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailparanee@buu.ac.thth_TH
dc.author.emailWongsakorn.p@chula.ac.thth_TH
dc.author.emailanana@buu.ac.thth_TH
dc.year2562th_TH
dc.description.abstractalternativeFifty-nine isolates of endophytic actinobacteria isolated from Rutaceae plants were classified in genera Actinomycetospora, Amycolatopsis, Marmoricola, Micromonospora, Nocardia, and Streptomyces. Based on the 16S rRNA gene sequencing and evolutionary analysis, four actinobacterial isolates, R6R-6, R7R-8, R15R-2, and R16R-3, were be promising new species in the genus Nocardia. Screening for endophytic actinobacteria producing antibiotic agents against pathogenic microorganisms causing diabetes mellitus patient’s infection, it was found that Streptomyces sp. R3R-6, isolated from the Citrus hystrix root, was the most effective stain in antibiotic production against Gram-positive bacteria, including B. subtilis ATCC 6633, M. luteus ATCC 9341, and S. aureus ATCC 25923. The antibiotic produced by Streptomyces sp. R3R-6 is actinomycin D, which showed highly effective activity against Gram-positive bacteria equivalent to chloramphenicol. Therefore, endophytic actinobacteria from Rutaceae plants are a potential source of microorganisms to produce antibiotics against pathogenic microorganisms causing diabetes mellitus patient’s infection. In addition, the study of the factors affecting the production of antibiotic from Streptomyces sp. R3R-6 revealed that the optimum time and the inoculum size for antibiotic production were seven days and 1% v/v, respectively. The optimum composition of the culture medium was sucrose (10 g/l) and malt extract (20 g/l).en
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2564_166.pdf3.73 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น