กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3815
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorศิริลักษณ์ กมลวรรณสิทธิ์
dc.contributor.authorขวัญใจ หรูพิทักษ์
dc.contributor.authorเอกรัฐ คำเจริญ
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว. คณะเทคโนโลยีการเกษตร
dc.date.accessioned2020-03-29T08:42:45Z
dc.date.available2020-03-29T08:42:45Z
dc.date.issued2562
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3815
dc.description.abstractการศึกษากิจกรรมการยับยั้งเชื้อรา Alternaria alternata ของสารสกัดหยาบของส่วนหัวของต้น S. pierrei โดยสกัดด้วยตัวทำละลายที่แตกต่างกัน 4 ชนิด ได้แก่ คลอโรฟอร์ม เอทานอล เอทิลอะซิเตตและน้ำ ด้วยวิธี agar plate พบว่า สารสกัดด้วยคลอโรฟอร์มสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ได้ดีกว่าสารสกัดที่สกัดด้วยตัวทำละลายชนิดอื่น ๆ เมื่อนำสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์มไปศึกษากิจกรรมการยับยั้งและฆ่าเชื้อรา พบว่า ค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อรา (MIC) และค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถฆ่าเชื้อราได้ (MFC) เท่ากับ 2.5 และ 4 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร การศึกษาครั้งนี้ประเมินประสิทธิภาพของสารสกัดจากหัวบัวบกป่าเพื่อควบคุมโรคใบจุดในมะเขือเทศและพริกสองพันธุ์ภายใต้สภาพโรงเรือนและสภาพแปลง วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) ทำ 3 ซ้ำ ทั้งสองการทดลอง ทรีตเมนต์ประกอบด้วย 1) ชุดควบคุม 2) ปลูกเชื้อราสาเหตุโรค 3) ฉีดพ่นสารสกัดจากหัวบัวบกป่า 4) ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันการจัดเชื้อรา (mancozeb) 5) ปลูกเชื้อราและฉีดพ่นสารสกัดจากหัวบัวบกป่า และ 6) ปลูกเชื้อราและฉีดพ่นสารเคมีป้องกันการจัดเชื้อรา (mancozeb) ผลการทดลอง แสดงให้เห็นว่า ทรีตเมนต์ที่ป้ายสารสกัดจากบัวบกป่าหลังจากป้ายเชื้อก่อโรคทำให้ระดับของการเกิดโรคมีค่าลดลงหลังป้ายสารสกัดเท่ากับ 8.0% และ 3.8% ในมะเขือเทศพันธุ์พวงชมพูและพันธุ์สีดา ตามลำดับ แต่ไม่พบความแตกต่างจากทรีตเมนต์ที่ป้ายสารเคมีป้องกันการจัดเชื้อราหลังจากป้ายเชื้อก่อโรคในสภาพ โรงเรือนและแปลง ประสิทธิภาพของสารสกัดขึ้นอยู่กับพันธุกรรมพืช ชนิดของ พืช และสภาพแวดล้อม ในขั้นต่อไปควรมีการศึกษาวิธีการใช้ภายใต้สภาพแปลงเกษตรกรth_TH
dc.description.sponsorshipงานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากงบประมาณเงินรายได้ (เงินอุดหนุนจากรัฐบาล) ประจำปีงบประมาณ 2562 มหาวิทยาลัยบูรพา ผ่านสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้วth_TH
dc.subjectเชื้อรา
dc.subjectพืชสมุนไพร
dc.subjectบัวบก
dc.subjectสาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
dc.titleการต้านเชื้อราก่อโรคสายพันธุ์ Alternaria ในพืชวงศ์มะเขือด้วยสารสกัดจากหัวบัวบกป่าth_TH
dc.title.alternativeAntifungal activities of Alternaria sp. in Solanaceae using tuber extracts of Stephania pierreien
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailsirilakk@buu.ac.th
dc.author.emailquanjair@buu.ac.th
dc.author.emailagratk@buu.ac.th
dc.year2562th_TH
dc.description.abstractalternativeAntifungal activity of crude extract of the tuber of Stephania pierrei against Alternaria alternata using agar plate technique was examined. Chloroform, ethanol, ethyl acetate and water were used as the extraction solvents. The results showed that the chloroform extract from the tuber of S. pierrei was more the percentage of inhibition (%) than the other solvents. Moreover, the crude chloroform extract could inhibit A. alternata TIRTR 3435 with MIC and MBC at 2.5 and 4.0 mg/ml, respectively. This study evaluated the efficacy of Stephania pierrei tuber extract for control of leaf spot disease in two cultivars of tomatoes and chili under greenhouse and field condition. The experiment was conducted Both experiments were conducted in Completely Randomized Design with 3 replications. Treatments included 1) control, 2) fungal, 3) Stephania pierrei tuber extract, 4) fungicide (mancozeb), 5) fungal with Stephania pierrei tuber extract and 6) fungal with fungicide (mancozeb). The results showed that tomatoes plants treated with the fungal with Stephania pierrei tuber extract decreased the disease severity to 8.0% and 3.8% in Puang-chom-poo and Sida cultivar, respectively after prevention but not differed from chemical fungicide under greenhouse and field condition. The efficacy of extracts depends on plant genotype, plant species and environmental factors. Further studies are needed to find out the way to use under conventional condition.en
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2563_328.pdf6.18 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น