กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3565
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorกรรณิการ์ วงศ์ดี
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสหเวชศาสตร์
dc.date.accessioned2019-05-19T07:40:25Z
dc.date.available2019-05-19T07:40:25Z
dc.date.issued2560
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3565
dc.description.abstractประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กล่าวคือสังคมที่มีประชากรตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด เนื่องจากอัตราการเจริญพันธุ์ลดลงและการมีอายุยืนยาวขึ้น ปัญหาสุขภาพที่พบควบคู่ไปกับผู้สูงอายุคือ โรคกระดูกพรุน ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายขาดความสมดุลททำให้การทลายแคลเซียมออกจากกระดูกมากเกินไป กระดูกจึงขาดความแข็งแรง เสียงต่อการหักได้ง่าย แม้ว่าโรคกระดูกพรุนจะมีหลายสาเหตุ เช่น การขาดฮอร์โมนจากรังไข่ การเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ ก็เป็นสาเหตุที่เร่ง หรือทำให้กระดูกพรุนแย่ลงกว่าเดิม เช่นโรคเบาหวาน เป็นต้น โรคเบาหวานประเภทที่ 2 เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั่วทั้งโลก และมีแนวโน้มเพิ่มยิ่งขึ้น เคยมีการศึกษากันมาบ้างและพบว่าเบาหวานประเภทที่ 2 ทำให้กระดูกในภาพรวมความแข็งแรงของโครงร่างกระดูกลดลง อย่างไรก็ดี ยังไม่เคยมีการศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงของกระดูกตั้งแต่วัยผู้ใหญ่จนถึงเริ่มเข้าวัยสูงอายุ และการแสดงออกของยีน FGF-23 ในลำไส้ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้วิจัยจึงมีเป้าหมายที่จะศึกษาการเปลี่ยนแปลงของกระดูกตามอายุและภายใต้ภาหะที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ในการทดลอง ผู้วิจัยใช้หนู Wistar เพศเมีย และหนูเบาหวานประเภทที่ 2 เลี้ยงให้มีอายุ 7 เดือน และ 13 เดือน เพื่อเป็นตัวแทนของวัยวัยผู้ใหญ่และวุัสูงอายุ ลำไส้นำไปใช้ศึกษาาการแสดงออกของยีน FGF-23 ผลการศึกษาพบว่า การการเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 แม้จะทำให้เปลือกกระดูกดูมีความหนาหรือมีพื้นที่มากขึ้น แต่โครงสร้างของใยกระดูกภายในนั้นกลับแย่ลง การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของกระดูกที่เกิดขึ้นในหนูเบาหวาน เป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยชดเชยความแข็งแรงของกระดูกอันเนื่องมาจากการสูญเสียมวลกระดูกในโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ยังพบว่า อายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กลไกการชดเชยความแข็งแรงของกระดูกใน หนูจีเคลดลง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างหนูจีเคที่อายุ 7 เดือนและ 13 เดือน ผลการศึกษาดังกล่าวชี้นำโรคเบาหวานส่งผลเสียต่อกระดูกทั้งในแง่ของการเจริญเติบโตของกระดูก ความหนาแน่นของมวลกระดูก และโครงสร้างของกระดูก ซึ่งอายุที่เพิ่มขึ้นยิ่งยังผลเสียต่อกระดูกมากขึ้นในโรคเบาหวาน จึงสรุปได้นำโรคเบาหวานเป็นปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้การเชื่อมของโครงสร้างกระดูกนั้นแย่ลงเร็วกว่าเดิม การป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานจึงเป็นทางที่ดีที่ดีในเวลานี้ ที่จะช่วยชะลอการเกิดกระดูกพรุนth_TH
dc.description.sponsorshipโครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectลำไส้เล็กth_TH
dc.subjectแคลเซียม -- การดูดซึมและการดูดซับth_TH
dc.subjectผู้สูงอายุ -- สุขภาพth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์th_TH
dc.titleการดูดซึมแคลเซียมของลำไส้เล็กที่ลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจากผลของฮอร์โมนเอฟจี เอฟ-23: หลักฐานที่แสดงว่าการดูดซึมแคลเซียมของลำไส้ลดลงในผู้สูงอายุth_TH
dc.title.alternativeThe age-dependent decrease in the intestinal calcium absorption by FGF-23 : an evidence that explains low calcium absorption in the elderlyth_TH
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailknnikar@buu.ac.th
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2563_011.pdf2.2 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น