กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2361
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorศศินันท์ ศิริธาดากุลพัฒน์
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะศึกษาศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T09:14:46Z
dc.date.available2019-03-25T09:14:46Z
dc.date.issued2551
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2361
dc.description.abstractวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรูปแบบ การเรียนการสอน ทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ และศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอน ทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ด้วยการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ ตอนที่ 1 สร้างโครงร่างรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ โดยการสังเคราะห์เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน และทดลองประเมิน ตอนที่ 2ศึกษานำร่องรูปแบบการเรียน การสอน โดยการทดลองใช้กับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ ช่วงชั้นที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 50 คน โรงเรียน ไผทอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร ตอนที่ 3 ทดสอบประสิทธิผลรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ Control Group Pretest Posttest Design เป็นกลุ่มทดลอง 25 คน เรียนรู้ด้วยรูปแบบ การเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มควบคุม 25 คน เรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือผู้สอน 2) บททดสอบทักษะทางสังคม 3) แบบทดสอบความฉลาดทางอารมณ์ 4) แบบประเมินความพึ่งพอใจต่อการเรียนรู้ ตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้าง ทักษะทางสังคมและความสามารถทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ ผลการวิจัยพบว่า : 1. ผลการสร้างรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษที่พัฒนาขึ้น เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง และผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ มีการสื่อสารแสดงความคิดเห็นร่วมเรียนรุ้ไปด้วยกัน ผู้เรียนฝึกทักษะ การคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์การฝึกควบคุมอารมณ์ ฝึกคิด และสะท้อนปัญหา และสร้างทางเลือก ในการนำเอาความรู้ไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยผ่านกระบวนการเรียนการสอน 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การจุดประกายความคิด ขั้นที่2 การขยาย ความคิด ขั้นที่ 3การลงมือปฏิบัติ ขั้นที่ 4 การนำเสนอผลงาน ขั้นที่ 5 การสรุปและประเมินผล ขั้นที่ 6 การประยุกต์ และการนำความรู้ไปใช้ 2.ผลการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบ การเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียน ช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ 2.1 คะแนนเฉลี่ยความสามารถทาง ด้านทักษะทางสังคม หลังการทดลองระหว่างนักเรียนที่ มีความสามารถพิเศษ ช่วงชั้นที่ 2 กลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.2 คะแนนเฉลี่ย ความสามารถทาง ด้านความฉลาดทางอารมณ์ หลังการทดลองระหว่างนักเรียนที่ มีความสามารถพิเศษ ช่วงชั้นที่ 2 กลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.3 ภายหลังการเรียนรู้ผู้เรียนกลุ่ม ทดลอง มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียน การสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด จากผลการศึกษาแสดงว่า รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษ มีประสิทธิผล และมีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ที่มุ่งเสริมสร้างทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ และทำให้นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.subjectความฉลาดทางอารมณ์th_TH
dc.subjectทักษะทางสังคมth_TH
dc.subjectเด็กปัญญาเลิศ - - การศึกษาth_TH
dc.subjectเด็กปัญญาเลิศth_TH
dc.titleการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีความสามารถพิเศษth_TH
dc.typeบทความวารสารth_TH
dc.issue2
dc.volume19
dc.year2551
dc.description.abstractalternativeThe development of Instructional Model for Enhancing Social Skills and Emotional Intelligence for Gifted Students in Grades 4- 6. The purposes of this study were to create an instructional model, and to study the effectiveness of the model for enhancing social skills and emotional intelligence for the gifted in grades 4-6. The model was divided into 3 phases as follows: The 1st phase: Creating a structure of the model by synthesizing conceptual framework from various theories. Then, the instruction model was developed and assessed by 5experts in the related areas. The 2nd phase: A pilot study was conducted with 50 gifted students. The 3rd phase: The efficiency of the instructional model was assessed by using “Randomized Control – Group Pretest Posttest Design as a research methodology. The experiment employed two groups of 25 gifted students each for six weeks. The instruments used in this study were: 1. Teacher Handbook. 2. Social Skills Test. 3. Emotional Intelligence Test, and 4). Evaluation from on student’s satisfaction of the Program. Results of the research: 1. The instructional model for enhancing social skills and emotional for the gifted students in grades 4 to 6 was developed. This model consisted of 6 processes: 1) Igniting stage 2) Expanding the idea 3) Performing 4) presenting 5) Summarizing and evaluating 6) Applying 2. The efficiency of the model: 2.1 The social skills of gifted students in the experimental group were higher than those in the control group after the intervention at .01 level of significance. 2.2 The emotional intelligence of students in the experimental group was higher than those in the control group after the intervention at .01 level of significance. 2.3 The feed back on satisfaction from all students in the experimental group was at the highest level.en
dc.journalวารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา = Journal of Education
dc.page15-32.
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:บทความวิชาการ (Journal Articles)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
15-32.PDF18.69 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น