กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2161
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.author | สรชัย ศรีนิศานต์สกุล | |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ | |
dc.date.accessioned | 2019-03-25T09:12:42Z | |
dc.date.available | 2019-03-25T09:12:42Z | |
dc.date.issued | 2549 | |
dc.identifier.uri | http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2161 | |
dc.description.abstract | บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง “การก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจของสาธารณรัฐประชาชนจีนและผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศอาเซียน” โดยศึกษาถึงแนวคิดและเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีน ซึ่งจีนเองได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อสิ้นสุดสงครามเย็นในทศวรรษที่ ๑๙๙๐ พร้อมกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตจีนจึงการเป็น จีนจึงกลายเป็นเป็นประเทศสังคมนิยมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแทนที่สหภาพโซเวียตเดิม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จีนถูกจับตามองจากชาติตะวันตกโดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกาที่ยังคงมองจีนในแง่ของความขัดแย้งทางอุดมการณ์อยู่พร้อม ๆ กับความหวาดระแวงว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนอย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพทางทหารซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพความมั่นคงในโลก ในขณะเดียวกันก็เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์แห่งชาติอื่น ๆ ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา เช่น เรื่องบูรณภาพทางดินแดน (ไต้หวันทะเลจีนใต้ และทิเบต เป็นต้น) ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน และปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจเป็นต้น แต่ในสายตาของนักเศรษฐศาสตร์ และนักธุรกิจ กลับมองว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนทำให้จีนกลายเป็น “โอกาส” สำคัญในการลงทุนมากกว่าที่จะเป็นภัย “ภัยคุกคาม” ด้วยเหตุนี้จึงมีการเสนอแนะแนวทางในการจัดการกับจีน ๓ แนว ทางด้วยกันคือ การปิดล้อม (Containment) การเกี่ยวพันอย่างมีเงื่อนไข (Conditional Engagement) การเกี่ยวพันเชิงสร้างสรรค์ (Constructive Engagement) จีนเองก็ได้พยายามแสวงหาแนวทางที่เหมาสมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง พร้อม ๆ กับความพยายามเข้าไปมีส่วนร่วม และมีบทบาทในเชิงสร้างสรรค์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน เพื่อสร้างการยอมรับ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จากความพยายามแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี และความเคารพในผลประโยชน์กันนี้เองทำให้ความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน ค่อย ๆ เปลี่ยนไปสู่แนวทางของความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.subject | การพัฒนาประเทศ - - จีน | th_TH |
dc.subject | จีน - - ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ - - สหรัฐอเมริกา | th_TH |
dc.subject | ประเทศมหาอำนาจ | th_TH |
dc.subject | สาขาปรัชญา | th_TH |
dc.title | การก้าวขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจของจีนในศตวรรษที่ ๒๑ | th_TH |
dc.type | บทความวารสาร | th_TH |
dc.issue | 21 | |
dc.volume | 14 | |
dc.year | 2549 | |
dc.description.abstractalternative | The Paper of “The Rise of the People’s Repubilc of China to the Great Power Nation Status and Its Effects on her relationships with the United States of America and the ASEAN Nations” aims at studying the conflicts of interests between China and U.S. and their unfriendly relationships as a result of the fear of China as a superpower and the misperception of Chinese capabilities and aggressiveness. Consequently, these fear and mistrust of China have evolved to conflicts in political, economic, social issues. This study employs the “Complex Interdependence” approach, based on the works of Rebert O. Keohane and Joseph S. Nye, as a tool to explain the relations between China, America and the ASEAN countries. In general, there are different views about “the rise of China”. However, most scholars agrees that china will increasingly play an important role in global affairs as China’s modernization has a major impact on the world and will inevitably create a huge market and stimulate world economic growth by more inventions, investment, and importation. The fear of China as a superpower on par with the United States is derived from an assessment of the basic elements of power : namely the military strength, population, industrial capacity, natural resources. Nevertheless, China’s lacks of superior military capacities and pre-occupied with domestic security, economic and social development have will find its threat. In order to engage its neighboring countries and ASEAN Nations, China tries to extend cooperations and initiate regional integration in East Asia. Mean while, China also tries to solve the existing conflicts with peaceful means, both at the bilateral and multilateral levels. In order to create mutual trusts and good understanding with the regional countries. As regarding to the U.S. China has offered cooperation in anti-terrorism, helping solving the Korean nuclear crisis and anti-arms proliferation to the U.S. Relations between China and the ASEAN Nations experienced change over the course of the past 15 years. Discussions of their relations have focused mostly on concerns about China’s on going military modernization and securities, given post-Cold War changes in the U.S. strategic commitment to Southeast Asia. Especially, illustrates that a changing global context has given rise to important opportunities to forge closer relations as much as it has fostered challenges. Indeed, China has made the most gains in terms of its relations with Southeast Asia, owing to concerted efforts by each side to engage the other economically and politically, to understand the dynamics and significance of recent developments in Sino-ASEAN relations, however, they must be placed in their proper historical context China uses the diplomatic mechanism not only bilateral dialogues but also multilateral dialogues to solve problems and conflicts peacefully. Common interests and mutual trusts which result in increasing their interdependence and the improving their relations. Moreover , China used economic mechanism, both trading and investment, to extend political cooperation with the U.S. and the ASEAN in the future. | en |
dc.journal | วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. | |
dc.page | 123-156. | |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | บทความวิชาการ (Journal Articles) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|
123-157.PDF | 37.29 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น