กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1419
ชื่อเรื่อง: ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในน้ำส้มสายชูพันธุ์ต่าง ๆ หลังผ่านกระบวนการย่อยในหลอดทดลอง
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Antioxidant activity of some orange juices after in vitro digestion
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ชัชวิน เพชรเลิศ
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิทยาศาสตร์
คำสำคัญ: สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
อนุมูลอิสระ
วันที่เผยแพร่: 2556
สำนักพิมพ์: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: ปัจจุบันน้ำผลไม้ในตระกูลส้มได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารประกอบฟีนอล และฟลาโวนอยด์ เป็นต้น ซึ่งมีฤทธิ์ในการป้องกัน การเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวกับน้ำผลไม้ตระกูลส้มหลังผ่านกระบวนการย่อยอาหารแล้วจะส่งผลต่อสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอย่างไรบ้าง ดังนั้นจุดประสงค์ของการศึกษานี้จึงทำขึ้นเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของสถาวะการย่อยอาหารในร่างกาย ในปาก กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก เพื่อตรวจดูเสถียรภาพของสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระหลังจากการย่อยในหลอดทดลองของน้ำผลไม้ตระกูลส้ม น้ำผลไม้ในตระกูลส้มที่นำมาใช้ในการทดลองครั้งนี้ คือ น้ำส้มแมนดาริน น้ำส้มสายน้ำผึ้ง น้ำส้มโอ น้ำส้มเข้มข้น น้ำมะกรูด และน้ำมะนาว ในการประเมินผลใช้วิธีการตรวจสอบปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระ โดยการหาปริมาณสารประกอบฟีนอลรวม ปริมาณฟลาโวนอยด์รวม และทดสอฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH และ FRAP ทั้งก่อนและหลังการย่อย รวมทั้งฤทธิ์ในการกำจัดอนุมูลซูเปอร์ออกไซด์ ผลจากการทดสอบน้ำผลไม้ตัวอย่างก่อนการย่อยในหลอดทดลอง พบว่ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลอยู่ในช่วง 0.32-0.09 มิลลิกรัมสมมูลกรดแกลลิกต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง ปริมาณสารประกอบฟลาโวนอยด์รวมอยู่ในช่วง 2.38-9.80 มิลลิกรัมสมมูลเฮสเพอริดินต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง ความสามารถในการยับยั้งอนุมูล DPPH อยู่ในช่วง 12.96-96.28% และมีความสามารถในการรีดิวซ์อยู่ในช่วง 0.08-5.52 มิลลิโมลาร์ต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง หลังผ่านการย่อยในหลอดทดลองพบว่ามีปริมาณสารออกฤทธิ์และฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระลดลง มีปริมาณสารประกอบฟีนอลอยู่ในช่วง 0.02-0.04 มิลลิกรัมสมมูล กรดแกลลิกต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง ปริมาณสารประกอบฟลาโวนอยด์รวมอยู่ในช่วง 1.01-1.18 มิลลิกรัมสมมูลเฮสเพอริดินต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง ความสามารถในการยับยั้งอนุมูล DPPH อยู่ในช่วง 24.68-72.85% และมีความสามารถในการรีดิวซ์อยู่ในช่วง 0.01-2.11 มิลลิโมลาร์ต่อมิลลิลิตรตัวอย่าง ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำส้มเข้มข้นมีฤทธิ์ในการยับยั้งอนุมูลซุปเปอร์ออกไซด์ได้ดีที่สุด ( = 0.25±6.41) ดังนั้นจากการศึกษาที่กล่าวมาข้างต้นจึงสรุปได้ว่า ระบบการย่อยอาหารมีผลต่อปริมาณสารออกฟทธิ์ทางชีวภาพ และฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของน้ำผลไม้ในตระกูลส้ม
URI: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1419
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
2569-115.pdf36.24 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น