Abstract:
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง 1 กลุ่ม วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมความปลอดภัย และเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมความปลอดภัยก่อน และหลังการประยุกต์ใช้กระบวนการสร้างความปลอดภัยโดยใช้พฤติกรรมเป็นฐาน Behavior-Based Safety (BBS) ของคนงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ใช้เวลาในการดำเนินการ 10 สัปดาห์ ประกอบด้วย 1) แต่งตั้งคณะทำงาน 2) ฝึกอบรม 3) ค้นหาพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย 4) กำหนดพฤติกรรมเป้าหมาย 5) สังเกตพฤติกรรม 6) ทำการบังคับเชิงบวกเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และแบบสังเกตพฤติกรรม ผลการศึกษาพบว่า คนงานก่อสร้างที่ทำการศึกษา เป็นเพศชาย ร้อยละ 68.0 อายุเฉลี่ย 40.16 ปี (SD ±9.485) ส่วนมากจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 44.0 มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงานในงานก่อสร้างอยู่ในช่วง 1.1 – 20 ปี อายุงานเฉลี่ย 8.84 ปี (SD ±5.375) ส่วนใหญ่ทำงานก่อสร้างทั่วไป ร้อยละ 92.0 ไม่มีประวัติการประสบอันตรายจากการทำงาน หรืออุบัติเหตุในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจากการสังเกตพฤติกรรมความปลอดภัยพบว่า คนงานก่อสร้างที่ทำการศึกษาสามารถปฏิบัติพฤติกรรมความปลอดภัยได้ร้อยละ 100 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 5 ในเรื่องการสวมใส่แว่นตานิรภัยและหน้ากากกรองฝุ่น สัปดาห์ที่ 6 ในเรื่องการสวมใส่หมวกนิรภัย และรองเท้านิรภัย และสัปดาห์ที่ 8 ในเรื่องการใส่อุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูงก่อนการวิจัยคนงานก่อสร้างที่ทำการศึกษาส่วนมากมีระดับพฤติกรรมความปลอดภัยในระดับดี ร้อยละ 40.0 และระดับที่ต้องปรับปรุง ร้อยละ 60.0 หลังจากประยุกต์ใช้กระบวนการ BBS แล้วพบว่าคนงานก่อสร้างที่ทำการศึกษา มีระดับความพฤติกรรมความปลอดภัย ในระดับดีเป็นร้อยละ 100.0 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (p<0.001) ผลจากการศึกษาครั้งนี้พบว่า กระบวนการสร้างความปลอดภัยโดยใช้พฤติกรรมเป็นฐานสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของคนงานก่อสร้างในบริษัทรับเหมาก่อสร้างได้หากนำกระบวนการสร้างความปลอดภัยโดยใช้พฤติกรรมเป็นฐานมาประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องคนงานก่อสร้างก็จะเกิดความเคยชิน และปฏิบัติตนเองเป็นอัตโนมัติ ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร